โฆษกคลังเตือน 1.6 แสนรายทบทวนสิทธิเราไม่ทิ้งกัน รีบติดต่อกรุงไทยยืนยันตัวตนก่อน 29 พ.ค.นี้

โฆษกคลังเตือน 1.6 แสนรายทบทวนสิทธิเราไม่ทิ้งกัน รีบติดต่อกรุงไทยยืนยันตัวตนก่อน 29 พ.ค.นี้ ย้ำไม่เปิดลงทะเบียนรอบ 2 รัฐมีแนวทางช่วยด้านอื่น จ่อชงครม.ช่วยกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)  ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยผลการดำเนินการมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2563 สำเร็จเรียบร้อยแล้ว 99% ในส่วนที่ยังคงเหลืออีกเพียง 1% คือการดำเนินการในส่วนที่ยังตกค้างเกี่ยวกับการขอทบทวนสิทธิ 2.4 แสนราย โดยมาตรการเยียวยา 5,000 บาท มีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 28.8 ล้านราย มีการลงทะเบียนซ้ำ 4.8 รายการ และลงทะเบียนไม่สำเร็จ 1.7 ล้านราย ทำให้มีผู้ลงทะเบียนที่เข้าสู่ขั้นตอนการคัดกรองตามหลักเกณฑ์จำนวน 22.3 ล้านราย มีผู้ผ่านเกณฑ์ 15 ล้านราย ไม่ได้รับสิทธิ 7 ล้านราย และอยู่ระหว่างการดำเนินการทบทวนสิทธิ 2.4 แสนราย

นายลวรณ กล่าวว่า ทั้งนี้กลุ่มผู้ผ่านเกณฑ์ 15 ล้านราย โอนเงินเยียวยาแล้ว 14.2 ล้านราย ส่วนที่เหลือจะโอนเงินเยียวยาได้ครบถ้วนทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ โดยมีรอบการโอนวันที่ 21 พฤษภาคม 2563 จำนวน 2.3 แสนรายและวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 จำนวน 4.4 แสนราย ทั้งนี้ บัญชีของผู้รับจะต้องไม่มีปัญหาในเรื่องบัญชีไม่ตรงกับชื่อนามสกุลที่ลงทะเบียน บัญชีถูกปิด หรือไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชน ซึ่งจะเป็นเหตุให้การโอนเงินไม่สำเร็จ ดังนั้น สำหรับกลุ่มผู้ผ่านเกณฑ์แล้ว แต่ยังติดขัดเรื่องบัญชีสำหรับรับโอนเงินเยียวยา โปรดดำเนินการผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุด โดยไม่ต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติมอีก กระทรวงการคลังจะมีการตรวจสอบและโอนเงินให้ใหม่เป็นประจำทุกสัปดาห์

นายลวรณ กล่าวว่า กลุ่มไม่ได้รับสิทธิ 7 ล้านราย จำแนกเป็นผู้ไม่ขอทบทวนสิทธิ 4.8 ล้านราย ผู้ไม่ผ่านการขอทบทวนสิทธิ 1 ล้านราย ผู้ยกเลิกการลงทะเบียนหรือยกเลิกการขอทบทวนสิทธิ 9 แสนราย และกลุ่มที่ขอข้อมูลการประกอบอาชีพเพิ่มเติม แต่ไม่ได้เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมภายในเวลาที่กำหนดประมาณ 3 แสนราย

นายลวรณ กล่าวต่อว่า กลุ่มที่อยู่ระหว่างการดำเนินการทบทวนสิทธิ 2.4 แสนราย คิดเป็นสัดส่วน 1% ของจำนวนผู้ที่เข้าสู่การคัดกรองตามหลักเกณฑ์ ที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ผู้ขอทบทวนสิทธิ 8 หมื่นราย จะได้รับการติดต่อจากทีมผู้พิทักษ์สิทธิเพื่อนัดหมายยืนยันตัวตนและตรวจสอบการประกอบอาชีพตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ กลุ่มที่ 2 ประมาณ 1 แสนราย เป็นผู้ขอทบทวนสิทธิซึ่งเคยได้รับการติดต่อจากทีมผู้พิทักษ์สิทธิแล้วแต่ไม่สามารถนัดพบได้หรือที่อยู่จริงในปัจจุบันไม่ตรงกับที่ได้ลงทะเบียนไว้ตอนขอทบทวนสิทธิ ทำให้ผู้พิทักษ์สิทธิไม่สามารถเจอตัวได้ และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่ผู้พิทักษ์สิทธิได้พยายามติดต่อไปหาแล้วหลายครั้งแต่ติดต่อไม่ได้จำนวน 6 หมื่นราย

ทั้งนี้ผู้ขอทบทวนสิทธิในกลุ่มที่ 2 และ 3 จำนวน 1.6 แสนราย กระทรวงการคลังจะ SMS แจ้งให้ทราบในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ และขอให้ไปติดต่อที่สาขาธนาคารกรุงไทยที่สะดวกที่สุดเพื่อยืนยันตัวตนและการประกอบอาชีพ โดยนำบัตรประชาชนตัวจริงไปแสดงพร้อมหลักฐานการประกอบอาชีพได้จนถึงวันที่ 29 พฤษภาคม 2563  ถ้าไม่ไปแสดงตัวตามที่กำหนดจะไม่ได้รับสิทธิ เนื่องจากการจ่ายเงินโครงการเราไม่ทิ้งกันเดือนสุดท้ายในมิถุนายน ดังนั้นควรต้องเร่งดำเนินการทบทวนสิทธิภายในเดือนพฤษภาคมนี้

นายลวรณ กล่าวต่อว่า ส่วนข้อเรียกร้องให้เปิดลงทะเบียนรอบ 2 นั้น คงจะไม่มีแล้ว เนื่องจากรัฐบาลมีแนวทางดูแลประชาชนในทุกกลุ่ม ล่าสุดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงชองมนุษย์(พม.) เตรียมเสนอแนวทางช่วยกลุ่มเปราะบาง 13 ล้านคน เข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรองที่มีเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เป็นประธานคณะกรรมการกลั่นกรอง หลังจากนั้นคาดว่าจะเสนอครม.ภายในวันที่ 26 พฤษภาคม คาดว่าจะมีการกู้เงินเพื่อให้พม.จ่ายเงินได้ทันทีในเดือนมิถุนายน  ส่วน แนวทางช่วยกลุ่มอื่น เช่น กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการนั้น กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาอยู่ รวมถึงในกลุ่มที่ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกันไม่ผ่าน 1.7 ล้านคน หลังจากพิจารณาในกลุ่มขอทบทวนสิทธิเรียบร้อยแล้วจะมาพิจารณาในกลุ่มนี้ให้

นายลวรณ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร  มีกลุ่มข้าราชการทำอาชีพเกษตรกรได้รับเงินเยียวยา เป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการพิจารณาว่าจะให้ใคร หรือตัดสิทธิใครบ้าง หลังจากนั้นส่งรายชื่อมายังกระทรวงการคลัง เพื่อนำมาดูว่าซ้ำซ้อนกับการจ่ายเงินเยียวยาอาชีพอิสระหรือไม่