เลขาฯยูเอ็นจี้โลกเป็น “เอกภาพ” ต่อสู้ “โควิด” จีนมอบ 2 พันล้านดอลล์-หนุนสอบสวนการตอบสนองรับมือไวรัส

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การประชุมสมัชชาอนามัยโลก ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการกำหนดทิศทางการดำเนินงานขององค์การอนามัยโลก ที่เป็นการประชุมเสมือนจริงเป็นครั้งแรกครั้งประวัติศาสตร์ขององค์การอนามัยโลกผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เปิดฉากขึ้นแล้วเป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 18-19 พฤษภาคม ที่ถูกคาดหมายว่าจะเน้นการหารือถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่จุดวิกฤตสาธารณสุขโลกเป็นสำคัญ โดยนายอันโตนีอู กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ(ยูเอ็น) กล่าวเปิดการประชุมผ่านวิดีโอว่า การแพร่ระบาดไปทั่วโลกของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ควรถูกมองเป็นสัญญาณเตือนให้โลกตระหนักถึงความจำเป็นที่โลกจะต้องมีความเป็นเอกภาพร่วมกันให้มากกว่านี้ในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ที่ถือเป็นความท้าทายยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคสมัยเรา และยังแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของโลกไม่เพียงในแง่ของระบบสาธารณสุข แต่รวมถึงในสถาบันระหว่างประเทศ การต่อสู้รับมือกับวิกฤตสภาพอากาศ ความมั่นคงทางไซเบอร์ และ การปลดนิวเคลียร์

“โควิด-19 จะต้องเป็นสัญญาณเตือน และถึงเวลาแล้วที่จะต้องหยุดความอหังการ” เลขาธิการยูเอ็นกล่าวเชิงตำหนิบางประเทศที่ดำเนินการรับมือต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ไปในแนวทางที่แบ่งแยก โดยชี้ว่าหลายประเทศที่แตกต่าง ได้ดำเนินยุทธศาสตร์ที่แตกต่างไป บางครั้งเป็นไปในทางตรงข้ามกัน ซึ่งเราทุกคนต่างต้องได้รับผลกรรมอันหนักหน่วงเหล่านั้น เลขาธิการยูเอ็นกล่าวด้วยว่าหลายประเทศยังเมินเฉยต่อคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก และยังเตือนว่าการแพร่ระบาดครั้งนี้ยังจะสร้างหายนะรุนแรงกว่านี้ในประเทศกำลังพัฒนาได้

จอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่ติดตั้งในกรุงปักกิ่งของจีน ขณะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ร่วมประชุมสมัชชาอนามัยโลก ผ่านวิดีโอลิงค์ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม (เอเอฟพี)

ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน กล่าวในที่ประชุมด้วยการให้คำมั่นว่าจีนจะพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพื่อสาธารณประโยชน์โลกในทันทีที่มีความพร้อมให้ใช้ได้ ผู้นำจีนยังรับปากจะมอบเงินสนับสนุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการต่อสู้รับมือกับไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกในเวลา 2 ปี ทั้งยังประกาศสนับสนุนให้มีการสอบสวนอย่างครอบคลุมในการตอบสนองรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังจากที่สถานการณ์แพร่ระบาดทั่วโลกอยู่ภายใต้การควบคุมได้แล้ว โดยยังยืนยันด้วยว่าจีนมีทัศนคติที่เปิดกว้าง โปร่งใสและรับผิดชอบ และจีนได้แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในเวลาที่เหมาะสม

ด้านนายทีดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวให้คำมั่นว่าจะเริ่มดำเนินการให้มีการสอบสวนอิสระเพื่อตรวจสอบการตอบสนองรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ก่อนหน้านี้รัฐบาลหลายชาติ ซึ่งรวมถึง สหรัฐอเมริกา และ ออสเตรเลีย เรียกร้องให้มีการเปิดการสอบสวนต้นตอที่มาของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 3.1 แสนราย และ ทำให้มีผู้ติดเชื้อรวมกันแล้วมากกว่า 4.8 ล้านราย ซึ่งยังกลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้บรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน สองมหาอำนาจโลกตึงเครียดหนักยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และนายไมก์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวหาจีนว่าไม่โปร่งใส และว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 หลุดมาจากห้องทดลองในเมืองอู่ฮั่นของจีนจนแพร่ระบาดไปทั่วโลก ขณะที่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าจีนปกปิดเรื่องนี้และยืนยันว่าจีนได้แบ่งปันข้อมูลในเรื่องนี้กับองค์การอนามัยโลกและประเทศอื่นๆในเวลาที่เหมาะสมแล้ว