“สุรเชษฐ์” ชวนจับตามติที่ประชุมคนร.อุ้มการบินไทยหรือไม่ ชี้อยากเห็นบริหารแบบมืออาชีพ

วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ดร.สุรเชษฐ์ ปวีณวงศ์วุฒิ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)ว่า ในการจัดประชุมวันนี้พลเอกปนะยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง

ทางเลือกที่ 1: อุ้มการบินไทย ตามแผนฟื้นฟูแบบลอย ๆ อย่างเดิมที่เป็นข่าว “ค้ำประกันเงินกู้ 5.4 หมื่นล้านบาท ตามด้วยการเพิ่มทุนอีก 8.3 หมื่นล้านบาท” หรือ
ทางเลือกที่ 2: กลับลำ ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอฟื้นฟูกิจการ แบบที่พรรคก้าวไกลและอีกหลายฝ่ายกำลังเรียกร้อง

หากผลออกมาเป็นไปตามทางเลือกที่ 1 พรรคก้าวไกลจะรู้สึกเสียดายเงินภาษีมาก เพราะเป็นการอุ้มไปอยู่ไปแบบไร้อนาคต ดังที่พวกเราได้แสดงจุดยืนและออกแถลงการณ์เรียกร้องไม่ให้อุ้ม มาโดยตลอด

หากผลออกมาเป็นไปตามทางเลือกที่ 2 พรรคก้าวไกลเห็นด้วยและขอให้คำแนะนำเพื่อดักทางไว้ ดังต่อไปนี้

(1) ให้มืออาชีพจริง ๆ เข้ามาผ่าตัด ไม่เอาพวกที่เป็นเครือข่ายการสืบทอดอำนาจเข้ามาอย่างเด็ดขาด

(2) ไม่ถ่วงเวลาโดยบอกว่าต้องทำโน่นนี่นั่นก่อน แล้วสุดท้ายเอาเงินภาษีไปอุ้มอยู่ดี เพราะตอนนี้สภาพคล่องของการบินไทยได้หมดลงแล้ว

(3) ต้องไม่มีไอ้โม่งมารอฮุบกิจการ แต่ต้องเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาร่วมวงได้อย่างเสรีและเป็นธรรม

(4) ในการฟื้นฟูกิจการ จะมีทางออกได้ 3 ทางในแง่ของความเป็นเจ้าของการบินไทย อันจะส่งผลต่อการบริหารจัดการในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ (ก) เป็นเอกชนมากขึ้น (ข) คล้ายเดิม และ (ค) เป็นรัฐมากขึ้น ซึ่งจากข่าว รัฐบาลคงทำแบบ (ข) เช่น ลดสัดส่วนที่กระทรวงการคลังถือหุ้นจาก 51% เป็น 49% โดยส่วนต่าง 2% คือให้หน่วยงานหรือกองทุนอื่นของรัฐมาถือแทน พรรคก้าวไกลอยากให้รัฐบาลกลับไปคิดให้รอบคอบอีกครั้งในส่วนนี้ โดยเราเห็นว่ารัฐควรมีความเป็นเจ้าของเพียง 0-25% เพื่อปราศจากการครอบงำหรือแทรกแซงโดยนักการเมืองหรือทหารการเมือง เราอยากเห็นการบินไทยมีมืออาชีพเข้ามาทำงานแทนเครือข่ายของผู้มีอำนาจ กองทัพ และข้าราชการ จึงจะหลุดพ้นจากวงจรขาดทุน โดยไม่ต้องนำเงินภาษีไปอุ้ม

“ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไรพรรคก้าวไกล ก็จะติดตามประเด็นนี้ต่อไป เพื่อให้เงินภาษีของพี่น้องประชาชนถูกใช้อย่างคุ้มค่าและโปร่งใส” ดร.สุรเชษฐ์ กล่าว