“แรมโบ้” ขู่ “เต้น” เลิกพูดโจมตีนายกฯประยุทธ์ หากไม่หยุด พรรคพวกเก่าจะออกมาแฉ

“แรมโบ้” ซัด “เต้น” ตอบแทนบุญคุณนายเก่าจนวันตาย เพราะได้โบนัสเป็นรัฐมนตรีสองกระทรวง “ขู่” หากไม่หยุด พรรคพวกเก่าจะออกมาแฉ

เมื่อวันที่ 17 พ.ค.นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำ กลุ่ม นปช เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และกลับไปใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ว่าเรื่องของการพิจารณา พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้ประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ทั้งนี้จะต้องพิจารณาควบคู่กับด้านสาธารณสุขด้วย ซึ่งหากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังไม่นิ่ง ก็ยังไม่สามารถยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ทันที ขณะเดียวกันนายกฯ ยังได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปพิจารณาศึกษาเปรียบเทียบความจำเป็นในการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ซึ่งนายวิษณุ ระบุแล้วว่าหากใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ที่ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารจัดการอาจเกิดความลักลั่นได้ เช่น บางจังหวัดอาจตึง บางจังหวัดอาจหย่อนยาน เหมือน จ. ภูเก็ต กระบี่ และพังงา ที่เคยเกิดปัญหาก่อนหน้านี้ ที่มีการโยกย้ายของคน จึงจำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาคุมอีกฉบับหนึ่ง และรัฐบาลได้ใช้กฎหมายทั้งสองฉบับนี้คู่ขนานกันมาตลอด

นายสุภรณ์ กล่าวยืนยันว่า ที่นายกรัฐมนตรี ยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ ไม่ใช่เพื่อควบคุมความเคลื่อนไหว หรือปฏิกิริยาของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยที่วิพากษ์วิจารย์การทำงานของรัฐบาล เพราะนายกรัฐมนตรีไม่มีเวลามาคิดเรื่องการเมือง หรือความเคลื่อนไหวใดๆ ในขณะนี้เพราะต้องเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้นายกฯพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอจากทุกฝ่าย หากเป็นไปอย่างสร้างสรรค์

“วันๆสมองของนายณัฐวุฒิคิดแต่เรื่องกล่าวหาโจมตีนายกรัฐมนตรีไม่เคยคิดอะไรที่สร้างสรรค์ การคง พรก.ฉุกเฉินมีความจำเป็นแล้วแต่ค่อยๆทยอยผ่อนปรนทีระยะๆ ทำให้ไม่ผิดพลาด ไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย ไม่รู้ว่านายณัฐวุฒิ เอาสมองส่วนไหนมาคิด ว่านายกฯต้องการคงไว้เพื่อควบคุมการชุมนุมและการวิพากษ์วิจารณ์ของนักการเมืองฝ่ายค้าน สมองคิดได้แค่นี้จริงๆ น่าสงสงสารคิดแบบปัญญาอ่อนที่สุด นายณัฐวุฒิอย่าพยายามทำลายสมาธิการทำงานของนายกฯเลยไม่ได้ผลหรอก เพราะ นายกฯและศบค.เดินมาถูกทางจนทั่วโลกให้การยอมรับชื่นชมการแก้ปัญหาโควิดของประเทศไทย ก็มีแต่พวกขี้อิจฉาริษยานั่นแหละ ที่ไม่เคยชื่นชมนายกฯและรัฐบาล ทั้งที่ทุ่มเททำงานจนสามารถควบคลุมปกป้องให้คนไทยให้สูญเสียน้อยที่สุดจากไวรัสโควิด

ผมแนะว่านายณัฐวุฒิควรนิ่งๆตั้งสมาธิทบทวนตัวเองในอดีตว่าเคยคิดร้ายอะไร ทำอะไรให้บ้านเมืองเสียหายย่อยยับบ้างหรือเปล่า ดีกว่าที่จะออกมาพูดจายุยงปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังรัฐบาลและนายกฯ เพื่อให้กลับไปมีชุมนุมชุลมุนวุ่นวายอีก เหมือนที่เคยทำกันมาจนบ้านเมืองเสียหายย่อยยับ เศรษฐกิจพังพินาศ นายสุภรณ์ กล่าว

นายสุภรณ์ กล่าวว่า มีอดีตแกนนำ นปช.เช่นนายสมหวัง อัสราษีและคนเสื้อแดงจำนวนมากที่คิดผิดกลับตัวกลับใจหลายคนพูดคุยกับตน บางคนมาพบด้วยตัวเองพร้อมจับมือร่วมกัน จะช่วยกันทำงานเสียสละเพื่อประเทศชาติและประชาชน เรายังมีโอกาสที่สังคมจะให้อภัยพวกเรา แต่คนอย่างนายณัฐวุฒิ ได้โบนัสเป็นถึงรัฐมนตรี 2 กระทรวง ยากที่จะกลับตัวกลับใจอย่างแน่นอน จำเป็นต้องทำงานตอบแทนบุญคุณเจ้านายเก่าจนวันตาย เขายอมตายเพื่อตอบแทนบุญคุณ ไม่ได้มีอุดมการณ์อะไรหรอก มีแต่อำนาจและผลประโยชน์ต่างตอบแทนมากกว่า

“อย่าให้พวกผมและเพื่อนออกมาแฉอะไรมากกว่านี้เลย พวกท่านจะไม่เหลือคุณค่าความเป็นมนุษย์ แม้แต่จะเดินบนถนนต้องเอาปี้บมาคลุมหัว คุณสมหวัง อัสราษีฝากเตือนมาบอกด้วยว่า มีแกนนำบางคนที่เอาเงินที่ประชาชนบริจาคช่วยเหลือค่าทำศพวีรชนและช่วยเหลือครอบครัวนับสิบๆล้านบาทแต่กลับนำไปใช้ส่วนตัวจนทำให้นายสมหวังถูกสรรพากรฟ้องล้มละลาย สักวันหนึ่งคุณสมหวังจะออกมาพูดความจริง ถ้าแกนนำคนนั้นไม่หยุดนิ่งและยังออกมาทำตัวปากดีมากนัก แต่คุณสมหวังยังไม่เอ่ยชื่อตอนนี้ว่าเป็นใครจะขอชี้แจงด้วยตัวเองเมื่อมีโอกาสเหมาะๆ”นายสุภรณ์กล่าว