ราชกิจจาฯ ประกาศปรับตั้งด่านเคอร์ฟิว จัดชุดเฉพาะกิจร่วมค้นหาผู้ป่วยโควิด

ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศคำสั่งศปม. ปรับตั้งด่านเคอร์ฟิว จัดชุดเฉพาะกิจร่วมค้นหาผู้ป่วยโควิดเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง หลังผ่อนปรน 6 กิจกรรม

วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงที่ 112563 เรื่องการปฏิบัติตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548

เพื่อให้การปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 (ฉบับที่5) ข้อกําหนดออกตามาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 (ฉบับที่6) และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบําดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนํา2019 (โควิด-19) ที่2/2563 ลงวันที่ 1 พฤษภาคมพ.ศ.2563

เรื่องแนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยอาศัยอำนาจตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 4/2563 ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 เรื่องแต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงานหัวหน้าผู้รับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินข้อ 3 (6) ข้อ 4

และข้อ 5 คำสั่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงที่ 1/2563ลงวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ2563 ข้อ 1 จึงให้หน่วยขึ้นตรงของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงปฏิบัติดังนี้

1.ปรับการจัดตั้งจุดตรวจควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด19 และจุดตรวจเพื่อบังคับใช้มาตรการในห้วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่รวมทั้งจัดชุดสายตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือชุดสายตรวจร่วมข้าราชการตำรวจข้าราชการทหาร ข้าราชการพลเรือน และพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

โดยดำรงความต่อเนื่องในการบังคับใช้มาตรการข้อกำหนดการรักษาความสงบเรียบร้อย การป้องกันการก่ออาชกรรม และเพิ่มการปฏิบัติเชิงรุกต่อพื้นที่เสี่ยง พื้นที่เพ่งเล็งทำการตรวจกิจการและกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลาย เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด

โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยหลักในการวางแผน และประสานการปฏิบัติกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กองทัพบก ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงกองทัพเรือ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงกองทัพอากาศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

2.ให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงทั้งสี่ศูนย์ตามข้อ 1 สนับสนุนการใช้กำลังในการจัดชุดตรวจเฉพาะกิจร่วมเพื่อปฏิบัติตามมาตรการค้นหาผู้ป่วยโรคโควิด19 เชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงและกลุ่มเสี่ยงตามที่ได้รับการร้องขอจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

กรณีที่มีปัญหาในการปฏิบัติตามแนวทางนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่หารือผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจเป็นการทั่วไปในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคงหรือรายงานนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาสั่งการ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2563 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 1 พฤษภาคมพ.ศ.2563 พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง