“ชวน” ยันสภาไม่คิดหักเงือนเดือนส.ส.สู้โควิด-19 ชี้ ส.ส.ลงพื้นที่ใช้เงินช่วยชาวบ้านมาแล้ว โอดส.ส.ปชป.ถูกหักเงินเข้าพรรคเหลือแค่ 6 หมื่น แนะทุกคนทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์-สุจริต ไม่ใช่กักตุนสินค้า เอากำไรแล้วบริจาคน้อยนิด

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการหักเงินเดือนส.ส. เพื่อบริจาคช่วยแก้ปัญหาวิกฤตโควิด -19 ว่า ส่วนตัวคิดว่านับตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิดมา ซึ่งแต่ละฝ่ายก็เข้าไปช่วยเหลือ เช่น บริจาคหรือด้วยวิธีใดก็ตาม ถือเป็นเรื่องที่ดีทั้งสิ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่สมาชิกควรปฎิบัติก็ดีแล้ว อย่างตนเองในฐานะประธานก็ได้เรี่ยไรเงินจากคณะทำงานของตนและพรรคพวก จนได้เงินมาประมาณ 4 แสนกว่าบาท เพื่อไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล 4 แห่ง ส่วนส.ส.แต่ละคนอยู่ในพื้นที่ดูแลชาวบ้านและมีค่าใช้จ่ายในการดูแลประชาชนในเขตของเขาเป็นจำนวนมาก

“วันนี้มีการส่งข้อความแจ้งมาว่ามีความกังวลเรื่องข่าวที่ไปกำหนดให้มีการหักเงินเดือน ดังนั้นผมขอยืนยันว่าสภาไม่มีความคิดนี้ เพราะทราบดีกว่าส.ส.ดูแลประชาชนอยู่แล้ว อยากจะบอกว่าเงินเดือนส.ส.เมื่อหักภาษีและหักเงินเข้าพรรคแล้วสำหรับบางพรรค เหลือเงินไม่ถึงแสนบาท มีประมาณ 8 หมื่นบาท สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เมื่อหักเงินเข้าพรรคแล้ว ก็เหลือประมาณ 6 หมื่นบาท ไม่ได้เป็นแสนอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจ แต่ส.ส.แต่ละคนฐานะก็แตกต่างกัน คนที่มีความพร้อมมีฐานะดีก็มีส่วนร่วมในการช่วยส่วนรวมก็เป็นเรื่องดี ควรชื่นชม แต่โดยส่วนตัวผม ไม่บังคับและไม่ให้หักเงินเดือน ส.ส.เพราะผมรู้ว่าขณะนี้เขาก็ช่วยเหนือมากกว่าเงินเดือนที่หักอยู่แล้ว ขออย่างเดียวในภาวะที่มีปัญหาที่ต้องร่วมมือกัน ทุกคนต้องตระหนักว่าแต่ละคนมีหน้าที่อะไร แล้วทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่ว่าเป็นนักการเมือง หรือข้าราชการ หรือนักธุรกิจ ไม่ใช่ค้ากำไรเกินควร หรือไปกักตุนสินค้า ได้กำไรเป็นพันล้านบาท บริจาค 1 ล้านบาท อย่างนี้ก็ไม่มีความหมายอะไร หรือเอาเปรียบชาวบ้านขายของเกินราคาที่กำหนด แล้วเอาเงินน้อยนิดมาบริจาค อย่างนี้ไม่น่าชื่นชมอะไร” นายชวนกล่าว

นายชวนกล่าวต่อว่า ส่วนที่ทาง ส.ว.จะดำเนินการขอความร่วมมือเพื่อหักเงินเดือนนั้น ก็เป็นการดำเนินการของวุฒิสภากันเอง ซึ่งที่ผ่านมาก็ทราบว่าได้มีการดำเนินการมาเป็นระยะแล้ว แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการหักเงินเดือนของส.ส.อย่างแน่นอน ก็ขอให้ส.ส.ได้เข้าใจ เพราะเข้าใจดีว่าส.ส.ใช้เงินในการดูแลประชาชนในสถานการณ์เวลานี้อยู่แล้ว