8 เม.ย.63 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษ(กพศ.)พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการแก้ไขสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ของรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ความเสมอภาคยังคงเป็นเงื่อนไขใหญ่ให้เกิดวิกฤติซ้อนวิกฤติตามมาเสมอ เพราะเมื่อกลุ่มนำทางการเมืองเป็นเชื้อมาจากการยึดอำนาจ วิสัยของเผด็จการย่อมนึกถึงแต่พวกพ้องก่อนเสมอ พอออกมาตรการจ่ายเงิน5พันบาทต่อเดือนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิดก็สร้างความไม่พึงพอใจให้แก่ประชาชนขยายเป็นวงกว้างไปกันใหญ่เพราะมีผู้แจ้งความจำนงค์เข้ามา25ล้านคนแต่จะได้รับเงินเพียง8-9ล้านคน พอเร่งออกพ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉินวงเงินกว่า1ล้านล้านบาทเพื่อรับมือวิกฤติการณ์ครั้งนี้ก็แถมพ่วงพ.ร.ก.แบบคิดใหม่ทำใหม่ให้แบ้งค์ชาติไปช่วยเหลือตลาดเงินตลาดทุนของพวกเจ้าสัวนายทุนอีกเหมือนเคย ถนัดแต่สร้างความเหลื่อมล้ำเพิ่มวิกฤติใหม่ไปเรื่อย ก่อนการกู้เงินฉุกเฉินประเทศไทยก็มีศักยภาพที่จะจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือได้อย่างเพียงพออยู่แล้วบนฐานงบประมาณและทรัพยากรปกติที่มีอยู่ แต่เพราะความฉ้อฉลอ่อนด้อยของรัฐบาลเองจึงทำให้เกิดความขาดแคลน

วิกฤติโควิดสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมหันต์แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้คนไทยตาสว่างใจสว่างมองเห็นความไร้ภาวะผู้นำ ไร้วิสัยทัศน์ ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ธรรมาภิบาลและไร้ยางอายของกลุ่มคนสืบทอดอำนาจ กระแสการเปลี่ยนม้ากลางศึกจึงดังกระหึ่มขึ้นเพราะม้านำมันเป็นมะเร็งร้ายขั้นสุดท้ายรักษาไม่ได้ต้องสละทิ้งไป ส่วนจะเปลี่ยนแปลงกันอย่างไรครรลองประชาธิปไตยไม่มีทางตัน เสมือนกรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดีคนเก่งหรอก ผู้แทนราษฏรของปวงชนผู้เป็นเจ้าของอธิปไตยย่อมมีสติปัญญาหาทางออกให้กับประเทศได้เสมอ จงทำหน้าที่ของท่านซะ