โฆษก ศบค.ชี้ แม้ยอดผู้ติดเชื้อโควิดลด ห้ามนิ่งนอนใจ เปรียบเหมือนชกมวย ‘การ์ดห้ามตก’ เสี่ยงโดนน็อก

โฆษก ศบค.ชี้ แม้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลง ห้ามนิ่งนอนใจ เปรียบเหมือนชกมวย ‘การ์ดห้ามตก’ หากพลาดโดนต่อย เสี่ยงน็อกได้ เชื่อ ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เคอร์ฟิว-ควบคุมพื้นที่-จัดสถานที่รองรับกลุ่มเสี่ยงช่วยลดการแพร่ระบาด

เมื่อวันที่ 7 เมษายน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวตอบคำถามถึงข้อห่วงกังวลว่าจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง เพราะการตรวจลดลงหรือประสิทธิภาพการตรวจลดลงหรือไม่ ว่า เมื่อเช้ามีการประชุมที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และมีการพูดคุยกันว่าตัวเลขสะสมของการตรวจทางห้องปฏิบัติการ จำนวน 71,860 ราย ซึ่งถามว่าพอใจหรือไม่ ที่ประชุมระบุว่า ยังไม่พอใจ ต้องหาหนทางตรวจเพิ่มให้ได้มากกว่านี้ ตอนนี้ความสามารถในการตรวจพบว่า กรุงเทพฯและปริมณฑล ประมาณวันละหนึ่งหมื่นราย ส่วนต่างจังหวัดรวมกันวันละหนึ่งหมื่นราย รวมทั้งประเทศสองหมื่นราย ซึ่งการตรวจไม่ใช่แค่ใช้น้ำยาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ด้วย ถ้ามาพร้อมกันเป็นหมื่นๆ รายก็คงไม่ไหว เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ข้อจำกัดก็ไม่ได้เป็นปัญหา ต้องมีการแก้ไขตรงนี้ แนวทางตรงนี้ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข หรื อีโอซี พยายามจะเพิ่มให้มากขึ้น ให้เหมือนกับประเทศที่รายงานว่าตรวจกันเป็นแสนตัวอย่าง เราจะทำแบบนั้นให้ได้ ยิ่งเราตรวจเจอมากก็อาจจะเจอมาก เราไม่กลัวว่าจะเจอมาก

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อ 38 ราย มีคำอธิบายว่าดีขึ้นเพราะการประกาศ พ.ร.ก ฉุกเฉิน และการประกาศเคอร์ฟิว การควบคุมภายในประเทศตามพื้นที่ต่างๆ และคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมีสถานที่รองรับที่ชัดเจน ทั้ง 3 ประเด็นเราทำกันอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่เห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อ 38 ราย ดีใจแล้วจะหยุดหรือเลิก ภาษามวยคือ “การ์ดห้ามตก” เพราะถ้าตกเมื่อไร ก็โดนต่อย โดนกระทุ้ง ทำให้ทรุดหรืออาจน็อกได้ ดังนั้น ต้องตรึงอย่างนี้ตลอดไป อีกทั้งประเทศอื่นๆ ในทั่วโลกก็ยังเป็นแหล่งรังโรค ที่มีคนที่เป็นผู้ติดเชื้อเป็นพาหะมาหาเราอยู่ ไม่ได้ให้รังเกียจ แต่ให้ระวังตัว สิ่งนี้ต้องยืนระยะให้ยาวๆ การมีเกราะป้องกัน ถ้าทุกคนร่วมมือกัน เราก็จะชนะ