“หมอยง” เผยใช้ “พลาสมา” รักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อมีมานาน ยันต้านไวรัส “โควิด-19” ได้

“หมอยง” เผยใช้ “พลาสมา” รักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อมีมานาน ยันต้านไวรัส “โควิด-19” ได้

โควิด-19 เมื่อวันที่ 6 เมษายน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ให้ความรู้เกี่ยวกับการนำพลาสมาจากผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 ที่รักษาหายแล้ว มาใช้รักษาผู้ป่วยที่ยังอยู่ระหว่างการรักษา ว่า แนวทางดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีการใช้ในทางการแพทย์มานานแล้ว ทั้งนี้ในผู้ที่หายจากโรคติดเชื้อ ร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานมาต่อต้านเชื้อโรคนั้น เราสามารถใช้ภูมิต้านทานนั้นมาให้ผู้ป่วย ใช้ช่วยในการรักษา เช่น เอามาทำเป็น เซรุ่ม โดยเซรุ่มที่ใช้อยู่จะถูกสกัดมาอีกทีหนึ่งให้มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้น เช่น ใช้ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ไวรัสตับอักเสบบี เป็นต้น ในทำนองเดียวกัน พลาสมาในผู้ป่วยที่หายจากโรคโควิด-19 ก็จะมีภูมิต้านทานต่อไวรัส เราจึงสามารถนำภูมิต้านทานนี้ มาช่วยเสริมในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้

ทั้งนี้ข้อความดังกล่าวระบุว่า

“โควิด-19 พลาสมา หรือน้ำเหลือง ที่ใช้ในการรักษาโรค
การใช้พลาสมามารักษาโรคไม่ใช่เรื่องใหม่ ในผู้ที่หายจากโรคติดเชื้อ ร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานมาต่อต้านเชื้อโรคนั้น

เราสามารถใช้ภูมิต้านทานนั้นมาให้ผู้ป่วยใช้ช่วยในการรักษา เช่น เอามาทำเป็น เซรุ่ม โดยเซรุ่ม ที่เราใช้อยู่จะถูกสกัดมาอีกทีหนึ่งให้มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้น เช่น ใช้ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ไวรัสตับอักเสบบี

ในทำนองเดียวกันพลาสมาในผู้ป่วยที่หายจากโรค โควิด-19 ก็จะมีภูมิต้านทานต่อไวรัส
เราจึงสามารถนำภูมิต้านทานนี้ มาช่วยเสริมในการรักษาผู้ป่วย โควิด-19 ได้

วิธีการนี้เป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์ทั่วโลก และได้มีการกำหนดกฎเกณฑ์ออกมาชัดเจนถึงแนวทางการปฏิบัติ

ในการตรวจภูมิต้านทานเพื่อนำพลาสมามาใช้ในกรณีนี้ ในปัจจุบันวิธีที่เชื่อถือได้ที่สุดจะต้องตรวจแบบ neutralizing antibody คือใช้ไวรัส โควิด-19 มาทำปฏิกิริยากับพลาสมานั้นว่าจะมีปริมาณ neutralizing antibody ที่สามารถที่จะหยุดยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสได้ในปริมาณเท่าไหร่

วิธีการนี้ค่อนข้างซับซ้อน และต้องใช้ไวรัสเชื้อเป็นที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 จึงจำเป็นที่จะต้องทำการตรวจในห้องปฏิบัติการที่มีความปลอดภัยสูงระดับ 3

และแน่นอนจะต้องมีการตรวจเชื้ออื่นๆในพลาสมาตามมาตรฐานการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
สำหรับคนปกติที่ไม่เคยติดเชื้อ ถ้าต้องการจะบริจาคพลาสมา อยากจะแนะนำให้มาบริจาคโลหิต ก็จะเป็นการบริจาคได้ทั้งเม็ดโลหิตแดง ขาวและเกล็ดเลือด รวมทั้งพลาสมาไปพร้อมกันเลย อันจะเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ในภาวะวิกฤตนี้

ในภาวะขณะนี้มีผู้บริจาคลดน้อยลง ก็อยากจะขอเชิญชวนผู้ที่ยังไม่เคยติดเชื้อ มาร่วมกันบริจาคโลหิต ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบริจาคพลาสมาเพื่อใช้ในการรักษาโรค โควิด-19″