วันที่ 5 เมษายน 2563ซีเอ็นเอ็น รายงานกรณีกองทัพเรือสหรัฐอเมริกามีคำสั่งปลดนาวาเอกเบร็ตต์ โครซเชอร์ ผู้บังคับการเรือบรรทุกเครื่องบินรบ ยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ ผู้แจ้งขอความช่วยเหลือให้อพยพลูกเรือ หลังพบโควิด-19 ระบาดบนเรืออย่างรวดเร็ว จนเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก

ปรากฏว่ามีคลิปเผยแพร่นาทีเหล่ากลาสี ลูกเรือต่างส่งเสียงเชียร์และปรบมือให้เพื่อขอบคุณและให้กำลังใจ กัปตันที่เดินลงจากเรือ หลังถูกคำสั่งปลดเพื่อลงโทษ ฐานปล่อยให้เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ จนทำลายขวัญและกำลังใจ

ภาพวิดีโอที่เผยแพร่ทางออนไลน์ เป็นนาทีลูกเรือมายืนส่งกัปตันโครซเชอร์ ปรบมือและตะโกนเรียกชื่อเพื่อยกย่องผู้บัญชาการเรือบรรทุกเครื่องบินรบลำนี้ สวนทางกับที่กองทัพสั่งปลด

การแสดงออกถึงความเคารพนับถือกัปตันโครซเชอร์ของกลาสีบนเรือ มาจากการที่กัปตันเรียกร้องผลักดันจนกองทัพต้องยอมให้มีการอพยพลูกเรือ กว่า 4,000 นาย แม้ว่าตอนแรกนายมาร์ก เอสเพอร์ รมว.กลาโหมสหรัฐอ้างว่ายังไม่เห็นด้วย

กองทัพตำหนิว่า นาวาเอกโครซเชอร์ไม่ได้รายงานสถานการณ์ต่อผู้บังคับบัญชาโดยตรง แต่กลับส่งจดหมายซึ่งรั่วไหลไปถึงสื่อมวลชน โดยมีข้อความที่เขียนว่า “เราไม่ได้อยู่ในสงคราม ทหารเรือไม่จำเป็นต้องมาตายแบบนี้“ ซึ่งกองทัพเห็นว่า สร้างความตื่นตระหนก และทำให้สาธารณะรับรู้ว่ากองทัพเรือไม่ได้ปกป้องทหารในกองทัพ

กระทรวงกลาโหมระบุว่า ลูกเรืออย่างน้อย 1,273 นาย จากทั้งหมดราว 4,800 นาย เข้ารับการทดสอบไวรัสแล้ว ทหารเรือติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 137 นาย คนที่ตรวจแล้วไม่พบว่าติด 576 นายได้อพยพขึ้นเกาะกวมเพื่อกักกันตัวเองที่โรงแรม

ด้านกลุ่มวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต ทำหนังสือถึงผู้ตรวจกระทรวงกลาโหม ให้สอบสวนอย่างเป็นทางการ ถึงการรับมือโควิด-19 ของกองทัพเรือ ทั้งต่อกรณีเรือ ยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ และเรือที่ปฏิบัติภารกิจลำอื่นๆ ทั่วโลก