วันที่ 3 เมษายน 2563 เดอะซัน รายงานแถลงเตือนของ ศาสตราจารย์ทอม บริทตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดจากมหาวิทยาลัยสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ว่า ประชากรกว่าครึ่งของสวีเดน หรือราว 5 ล้านคน จากจำนวนทั้งหมดกว่า 10.1 ล้านคน อาจป่วยเป็นโรคโควิด-19 ภายในเดือนนี้

หลังจากรัฐบาลยังไม่ประกาศคำสั่งปิดร้านอาหาร ผับบาร์ โรงเรียนหลายแห่ง และโรงภาพยนตร์ ขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมในสวีเดนเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 5,568 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 308 คน

“ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีอัตราการแพร่ระบาดสูง และประชากรสวีเดนกว่าครึ่งหนึ่งจะติดเชื้อก่อนสิ้นเดือนเมษายน หลังจากนั้นการขยายวงแพร่ระบาดจะยังไม่หยุด แต่ค่อยๆ ช้าลง และราว 2 ใน 3 ของประชากรจะติดโควิด-19 ภายในเดือนพฤษภาคม” ดร.บริทตันกล่าว

และว่าการเปิดสถานที่ที่มีผู้คนเข้าไปร่วมกลุ่มกันหนาแน่นไม่เพียงแต่เป็นภัยคุกคามต่อการระบาดในประเทศเท่านั้น

แต่ยังสร้างความวิตกกังวลให้กับเพื่อนบ้านกลุ่มประเทศแถบสแกนดิเนเวีย อย่าง เดนมาร์ก ฟินแลนด์ และนอร์เวย์ ซึ่งประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ ปิดสถานศึกษา สถานที่ทำงาน และชายแดนระหว่างประเทศไปแล้วเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ทั้งที่ยอดผู้เสียชีวิตของทั้ง 3 ประเทศรวมกันน้อยกว่าสวีเดนที่ 192 คน ต่อ 308 คน

“มองดูสถานการณ์ในสวีเดนแล้วมีความคล้ายคลึงนิดๆกับการดูหนังสยองขวัญ เรากลัวว่ามันจะยิ่งเลวร้ายเพราะที่สวีเดนเปิดกว้างมากๆ แต่ที่นี่เราปิดเสียมากกว่า” น.ส.ลิสเบธ เดวิดสัน นักข่าวชาวเดนมาร์กให้สัมภาษณ์สถานีทีวี 4

ขณะเดียวกัน กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ แพทย์ และผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ในสวีเดนมากกว่า 2,000 คนร่วมลงชื่อกดดันให้รัฐบาลพิจารณาใช้มาตรการที่เข้มงวดและเด็ดขาดเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสร้ายตัวนี้