นายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ล่าสุดยอดจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ ได้อีก 5 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 4 ราย ที่ขายหน้าแพงเกินจริงบนออนไลน์ จำนวนกล่องละ 50 ชิ้น คิดราคา 750-770 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 15-15.40 บาท และอีก 1 ร้านค้าทั่วไป ขายหน้ากากเกินราคาควบคุและไม่แจ้งต้นทุนและสต๊อก รวมต่างจังหวัด 1 ราย ที่จ.นครศรีธรรมราช เป็นร้านค้าทั่วไปขายแพงเกินควร

จึงทำให้ยอดสะสมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ รวม 241 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 120 ราย และต่างจังหวัด 121 ราย ส่วนไข่ไก่ขายเกินราคาไม่พบการกระทำผิดเพิ่ม คงเหลือ 24 ราย

ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม (มาตรา 25) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย (มาตรา 28) มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายสุพพัต กล่าวว่า กระทรวงได้เพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยล่าสุดมีรถธงฟ้า 260 คัน ตะเวนออกจำหน่ายสินค้าในแหล่งชุมชน หมู่บ้านต่างๆ โดยนำสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ไข่ไก่ ไข่เป็ด ข้าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันปาล์ม และเจลล้างมือ เป็นต้น ไปจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาด และเพิ่มเรือธงฟ้าทางเลือกสำหรับประชาชนที่มีบ้านอยู่ริมแม่น้ำ

สำหรับเจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ จากการติดตามสถานการณ์ พบว่า ปริมาณการผลิตเริ่มมีมากขึ้นแล้ว หลังจากที่กรมสรรพสามิตปลดล็อกให้มีการนำแอลกอฮอล์มาใช้ได้ ทำให้ผู้ผลิตต่างๆ เริ่มมีการผลิตป้อนเข้าสู่ตลาด ส่วนปัญหาการขาดแคลนภาชนะบรรจุและหัวปั๊ม นำเข้าจากจีนเข้ามาแล้ว