แพทย์ชี้ 2 ปัจจัย “โควิด-19” ในไทยระบาดน้อยกว่าปท.อื่น

แพทย์ชี้ 2 ปัจจัย “โควิด-19” ในไทยระบาดน้อยกว่าปท.อื่น

โควิด-19 เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รศ.พิเศษ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค เปิดเผยระหว่างแถลงความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า  ขณะนี้ประเทศไทยเดินมาเกือบ 2-3 เดือนแล้ว เป็นภาพที่ทะลุไปไกลอย่างมาก สถานการณ์ทั่วโลก มีจำนวนผู้ป่วยโลกใกล้เฉียด 1 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 47,000 ราย หากมองดูจะแบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 ยุโรปและสหรัฐอเมริกา ที่พบผู้ป่วยยืนยันหลักหมื่นราย และหลายหมื่นราย โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและอิตาลีที่พบผู้ป่วยในหลักแสน กลุ่ม 2 เอเชีย ประเทศใกล้ แถวบ้านเรา ยังพบผู้ป่วยใน หลักพัก แต่ในประเทศเกาหลีใต้พบผู้ป่วย หลักหลายพันราย สภาพที่เกิดขึ้นมีความแตกต่างกันมากพอสมควรซึ่ง เกิดจากหลายปัจจัย เช่น การค้นหาผู้ป่วย

รศ.พิเศษ นพ.ทวี กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ มีการทำวิจัยว่าคนในทวีปเอเชีย และคนไทย สวมใส่หน้ากากอนามัยร้อยละ 93 แต่ฝั่งยุโรปมีความเชื่อว่า ผู้ที่ไม่ป่วยไม่ควรสวมใส่หน้ากากอนามัย รวมถึงในประเทศไทยมีการเตรียมการเรื่องการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การร่วมมือเตรียมแอลกอฮอล์เจลล้างมือไว้บริการสำหรับประชาชนในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งเป็น 2 สิ่งสำคัญ ที่ทำให้ระดับของผู้ป่วยขยับขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่หนัก เหมือนในหลายประเทศ

“สิ่งที่อยากจะเตือนในวันนี้คือ เตือนว่าเราคงต้องมีมาตรการในการป้องกันตัวเองอย่าง เข้มข้น เช่น การสวมใส่ หน้ากากอนามัย ล้างมือ และอีกสิ่งคือ เมื่อกลับเข้าบ้านให้ล้างมือ อาบน้ำ สระผม เปลี่ยนชุดใหม่ ถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการป้องกันตัวเองได้ปลอดภัยที่สุด และสามารถปฏิบัติได้ทุกคนเพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว เพราะถ้าท่านติดเชื้อ 1 คน ก็จะก่อปัญหากับคนใกล้ชิดที่ จะต้องมีการกักกัน 14 วัน ซึ่งเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสพอสมควร” รศ.พิเศษ นพ.ทวี กล่าว