เพื่อไทย แนะตัดงบทำIO-ซื้ออาวุธ ไปโปะงบสาธารณสุข แก้โควิด

แนะตัดงบทำIO-ซื้ออาวุธ ไปโปะงบสาธารณสุข แก้โควิด
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เตรียมเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษในวันที่ 3 เม.ย.ว่า รัฐบาลคงต้องประเมินผลว่าการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินมากว่า 1 สัปดาห์ สามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้มีประสิทธิภาพสูงสุดหรือไม่

ต้องทำมาตรการใดควบคู่เพิ่มเติมอีกหรือไม่ ในแต่ละวันเวลาที่สูญเสียไป คือการสูญเสียโอกาส เกิดผลกระทบมหาวิกฤติเศรษฐกิจที่สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างหนัก การเสนอแนวทางให้รัฐบาลออก พ.ร.ก.โอนงบประมาณจากงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 โดยพิจารณาจากรายการที่ไม่ใช่รายจ่ายประจำ

เพื่อตัดงบประมาณจากโครงการที่ไม่สอดรับกับสถานการณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อาทิ งบโฆษณาประชาสัมพันธ์ งบไอโอ งบอบรมสัมมนา งบดูงานทั้งในและต่างประเทศ งบอีเวนท์ต่างๆ ตลอดจนงบจัดซื้อเรือดำน้ำ รวมถึงงบจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ แล้วโอนย้ายมาใช้ในกิจการสาธารณสุขและการเยียวยาประชาชนก่อน จะเป็นทางออกที่เหมาะสม

เพราะระยะที่เหลืออาจใช้งบปี 63 ไม่ทัน อีกทั้งไม่กระทบกรอบวงเงินหนี้สาธารณะอีกด้วย แต่การเสนอตัดงบประมาณ 10% จากทุกกระทรวงเท่ากันหมด อาจไม่สอดรับกับสถานการณ์ ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มจะต้องต่อสู้กันอีกยาว ควรพิจารณางบ 63 ให้ละเอียดถี่ถ้วนว่าขาดเหลืออย่างไร

กระทรวงสาธารณสุขไม่ควรจะถูกตัดงบประมาณเท่ากระทรวงอื่น ในขณะที่วันนี้ยังมีข่าวขาดแคลนเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ถ้าหากไปตัดงบประมาณลง 10% เท่ากระทรวงอื่น อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินการ เพราะข้าศึกที่มาประชิดรั้วบ้านวันนี้ ไม่ใช้ข้าศึกทางการทหาร แต่คือโควิด-19 ที่ประเทศต้องต่อสู้เอาชนะเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของประชาชน

“ความมั่นคงของประชาชน สำคัญไม่น้อยกว่าความมั่นคงของกองทัพ โดยเฉพาะความมั่นคงปลอดภัยในระบบสาธารณสุข การดูแลรักษาชีวิตของประชาชน และความมั่นคงในการดำเนินชีวิต ที่จะสามารถฝ่าช่วงเวลามหาวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญ” นายอนุสรณ์ กล่าว