นักวิเคราะห์ฟันธงศก.โลกครึ่งปีแรกติดลบ 11%

นักวิเคราะห์ฟันธงศก.โลกครึ่งปีแรกติดลบ 11%

นายแอเมอร์ บิแซท ผู้อำนวยการแบล็กร็อคบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยเมื่อวันที่ 1 เมษายนนี้ ว่า เศรษฐกิจของทั้งโลกอาจติดลบมากถึง 11 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 และสูญเสียผลผลิตทางเศรษฐกิจไปรวมกันคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์ จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นายบิแซท ระบุว่าสถานการณ์หดตัวของเศรษฐกิจโลกครั้งนี้เลวร้ายกว่าที่ได้เห็นกันในปี 2008 เมื่อเกิดวิกฤตหนี้ขึ้นทั่วโลก และน่าจะย่ำแย่กว่าสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดสเปนเมื่อปี 1918 อีกด้วย

“มันไม่น่าจะเลวร้ายเท่ากับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ในทศวรรษ 1930 ซึ่งเป็นวิกฤตที่เลวร้ายอย่างมาก แต่ครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นภาวะช็อคทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดเป็นอันดับสองของโลกเท่าที่เราเคยพบเห็นกันมา”

นายบิแซทให้ความเห็นดังกล่าวระหว่างการอภิปรายเสมือนจริงร่วมกับผู้รับเชิญคนอื่นๆ ที่จัดโดยศูนย์คาร์เนกี มิดเดิลอีสต์ โดยระบุต่อด้วยว่า ประเมินอย่างน้อยที่สุดแล้ว จะมีการตกงานในช่วงมกราคมถึงมิถุนายนไม่น้อยกว่า 5 ล้านตำแหน่ง เมื่อถูกถามว่านโยบายที่รัฐบาลประเทศต่างๆ ประกาศใช้ออกมาในยามนี้เพียงพอกับการชดเชยภาวะช็อคครั้งใหญ่นี้หรือไม่ นายบิแซทตอบว่า อาจบอกได้ว่ายังไม่เพียงพอ แม้ว่าจะน่าชมเชยมากแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตามนายบิแซทเชื่อว่า เมื่อประเมินจากมาตรการต่างๆ ที่ประกาศออกมา น่าเชื่อได้ว่า การฟื้นตัวหลังจากวิกฤตการระบาดครั้งนี้น่าจะเป็นการดีดตัวกลับเร็วและแรง ในรูปตัว “วี” แต่ที่ยังเป็นปัญหาก็คือ การฟื้นตัวดังกล่าวจะสามารถชดเชยความสูญเสียก่อนหน้านี้หรือไม่ โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าโลกจะสูญเสียผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ไป 2-3 เปอร์เซ็นต์โดยไม่มีวันได้กลับคืนมาเลย