สตม.เช็กไทม์ไลน์ ชายป่วยโควิดกลับจากปากีฯดับบนรถไฟ กักแล้ว 6 คน

สตม.ตรวจสอบไทม์ไลน์ชายดับบนรถไฟหลังลงเครื่องปากีสถาน กัก จนท.ตม.เเล้ว 6 คน

เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. กล่าวถึงกรณีชายเสียชีวิตบนรถไฟด้วยติดเชื้อโรคโควิด-19 ซึ่งจากประวัติมีการเดินทางกลับมาจากประเทศปากีสถาน มีการผ่านด่าน ตม.เข้ามาได้ว่า ทาง ตม.เเละทางตำรวจนครบาลได้ไล่ข้อมูลไทม์ไลน์ตั้งเเต่ขึ้นรถเเท็กซี่ไปที่พักก่อนจะเดินทางไปสถานีรถไฟบางซื่อก่อนกลับภูมิลำเนา จนกระทั่งมาพบว่าเสียชีวิตที่บริเวณสถานีทับสะแก จ.ประจวบครีขันธ์ เวลา 22.00 น. วันที่ 30 มีนาคม โดยสตม.มีข้อมูลคนที่อยู่เหตุการณ์ได้สัมผัสให้กักตัวเองไว้เพื่อลดการเเพร่ระบาด ตอนนี้ต้องช่วยกันหมด ซึ่งตอนนี้มี ตม.ที่จะต้องกักตัวเอง6คนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่สัมผัสชายเสียชีวิตคอนเดินทางเข้าประเทศมา ส่วนบุคคลอื่นๆอยู่ระหว่างประสานงานติดตามตัว ไม่ได้ปฎิเสธความรับผิดชอบ เรื่องที่เขาเข้าประเทศมา แต่หน้าที่ของตำรวจคือตรวจสอบหลักฐาน อาทิ พาสปอร์ต วีซ่า อาชญากรรม ความมั่นคง

พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. โฆษก สตม. กล่าวว่า เป็นห่วงการเเพร่ระบาด เบื้องต้นได้ตรวจสอบที่นั่งของสายการบินที่มีชายเสียชีวิตดังกล่าวเดินทางกลับมาไม่ว่าจะเป็นที่นั่งรอบๆว่ามีใครใกล้ชิดเเละอาจสัมผัสบ้าง เพื่อเอารายชื่อเเจ้งให้ สาธารณสุขตรวจสอบ ส่วนหลังลงเครื่องเเล้วชายคนดังกล่าว ผ่านใครบ้างเราก็ติดตามมา ทั้งหมดตอนนี้เรามีหมดเเล้วเราจะตีวงให้เเคบเพื่อเอามาเข้าสู่กระบวนการป้องกัน

พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (รอง ผบก.ตม.2) กล่าวว่า การเดินทางกลับจากต่างประเทศนั้นมีขั้นตอนที่ว่าผู้โดยสารจะต้องผ่านการตรวจสุขภาพและมีใบรับรองทางการแพทย์ว่ามีความพร้อมในการเดินทางได้ โดยจะต้องผ่านการรับรองจากสถานทูตไทยที่อยู่ในประเทศต้นทางนั้นมาก่อน เเละเมื่อเดินทางมาถึงประเทศจะเป็นหน้าที่ของกรมควบคุมโรคเเพทย์ที่จะมีการตรวจให้กรอกข้อมูล โดย ตม.รับผิดชอบในเรื่องของการตรวจพาสปอร์ต ดูว่ามีตราประทับกรมควบคุมโรคมาหรือไม่ถ้ามีเเสดงว่าได้ผ่านการตรวจสอบมาเเล้ว
สำหรับชายคนดังกล่าวทั้งหมดแล้วโดยพบว่าได้เดินทางเข้าประเทศไทยด้วยสายการบิน ทีจี350 เมื่อวันที่29 มีนาคมเวลา 05.50 น. พร้อมกับผู้โดยสารจำนวน 279 คน จากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นคนไทยทั้งหมดมีทั้งนักศึกษาและคนไทยที่แจ้งความ ประสงค์ของกลับบ้าน โดยชายคนดังกล่าวได้เดินทางกลับเพียงคนเดียวเเละผ่านการคัดกรองทาง ตม.จึงอนุญาตให้เข้าประเทศได้ ส่วนเป้าหมายการเดินทางไปกลับของชายคนดังกล่าวตนไม่สามารถระบุเเทนผู้เสียชีวิตได้