แพทย์ถามมาตรการ “เวิร์ก ฟรอม โฮม” ทำจริงกี่เปอร์เซ็นต์ จี้รัฐ-เอกชนทำจริง

โควิด-19 เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยยังไม่ลดลง ซึ่งสิ่งที่ สธ.คาดหวังคือ การพบผู้ป่วยในจำนวนที่ลดลงให้เหลือต่ำที่สุดไปจนถึงไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เลย ขณะนี้จึงยังไม่สบายใจ ดังนั้น มาตรการการป้องกันด้วยการเว้นระยะห่างยังไม่ได้ผล ยังมีประชาชนออกจากบ้านมากอยู่ ดังที่เห็นในรถเมล์ รถไฟ รถสาธารณะ ซึ่งมาตรการทำงานที่บ้าน (Work from Home) และมาตรการเหลื่อมเวลา ประชาชนยังไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งเข้าใจว่างานบางงานไม่สามารถทำที่บ้านได้ แต่งานที่ทำที่บ้านได้ ควรจะให้ทำงานอยู่บ้านมากกว่าร้อยละ

“อยากให้ตั้งคำถามไปยังหน่วยงานของรัฐ และเอกชนว่า มีการทำงานที่บ้านกันกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว เราเห็นต่างประเทศที่เขาหยุดก็หยุดกันจริงๆ ถนนโล่ง ไม่มีคนเลย แต่ประเทศไทยยังมีรถติดอยู่เลย” นพ.ธนรักษ์ กล่าว

นอกจากนี้ นพ.ธนรักษ์กล่าวว่า สภาพจราจรบนท้องถนนทุกเช้ายังพบว่ามีรถติด รถเมล์ ห้างสรรพสินค้ายังมีประชาชนหนาแน่น ซึ่งแสดงว่าประชาชนยังออกมาจากบ้านกันมาก ดังนั้น จะต้องมีการเลื่อมเวลา รวมถึงห้างสรรพสินค้าจะต้องมีการขยายเวลาเปิดออกไป ซึ่งมาตรการนี้ใช้ได้กับต่างประเทศ แต่ไม่ทราบว่าในประเทศไทยจะได้ผลหรือไม่ เช่น หากมี 1,000 คน ที่ต้องการไปห้างสรรพสินค้า แล้วมีการขยายเวลาเปิด-ปิด ก็จะมีการเฉลี่ยช่วงเวลากันออกไป

“ถ้าหากอยากให้นั่งรถไฟ คนโปร่งๆ รถไฟก็จะต้องวิ่งถี่ขึ้น ซึ่งหน่วยงานของรัฐเอง ที่มีการให้ทำงานที่บ้าน แต่ก็ยังพบว่ามีรถจอดอยู่เต็มพื้นที่ และอยากให้ทุกฝ่ายมีการทำงานที่บ้านให้ได้ถึงร้อยละ 80” นพ.ธนรักษ์ กล่าว