จากกรณีที่การรายงานข่าวว่ามีพนักงานสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ได้รับการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 นั้น

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงว่า กรณีนี้เป็นเรื่องจริง พนักงานคนดังกล่าวทำหน้าที่ประจำอยู่ในสำนักทันตสาธารณสุข ไม่ได้มีการออกไปทำงานนอกสถานที่หรือว่าต้องเข้าร่วมประชุม หรือมีกิจกรรมนอกสถานที่แต่อย่างใด และความจริงได้มีการลาหยุดงานก่อนจะป่วยแล้ว หลังหยุดงานแล้ว มีการตรวจวินิจฉัยยืนยันว่าป่วยโควิด-19 ส่วนประวัติการสัมผัสโรคคือ เป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ค่อนข้างแออัด เดินทางมาทำงานโดยรถตู้โดยสาร

พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า วันนี้ได้มีการปิดสำนักทันตสาธารณสุข เพื่อทำความสะอาดอีกครั้งแม้ว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวจะมีการหยุดงานไปนานแล้วก็ตาม ขณะเดียวกัน ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำสำนักทันตสาธารณสุข ทุกคนกักตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ทำงานอยู่กับบ้าน และเฝ้าระวังเจ้าหน้าที่ 3 คน ที่มีที่นั่งใกล้กับเจ้าหน้าที่ที่ป่วยโควิด-19 รายนี้

ผู้สื่อข่าวรายว่า จากข้อมูลในเอกสารสำนักทันตสาธารณสุข มีการรายงานว่าเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีการลาหยุด เมื่อวันที่ 20 มีนาคม เนื่องจากอาการท้องเสีย ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้นก็ยังไม่ได้มาทำงานที่สำนักทันตสาธารณสุข อีกจนถึงปัจจุบัน ต่อมาเมื่อวันที่ที่ 28 มีนาคม โรงพยาบาล (รพ.) จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้เรียกให้ไปรายงานตัวเข้ารับการตรวจ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เข้ารับการตรวจที่ รพ.จุฬาฯ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม เป็นคนที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ผู้ป่วยรายดังกล่าวมีอาการไม่รุนแรง แพทย์แจ้งให้รักษาใน รพ.เบื้องต้น 4-5 วัน ดังนั้น สำนักทันตสาธารณสุข ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานที่อาคาร 5 ชั้น 3 ทำงานที่บ้านตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมเป็นต้นไป พร้อมมีการทำความสะอาดสถานที่ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ชิดมี 3 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน