จับ-ปรับจริง! พาณิชย์ให้รางวัลนำจับ คนแจ้ง ‘ไข่แพง’ แนะผู้ค้ารายย่อยเก็บหลักฐานการซื้อ

ให้รางวัลนำจับคนแจ้งไข่แพง

วันที่ 28 มี.ค. นายสุชาติ สินรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่กำกับดูแลพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ กล่าวว่า หลังจากที่มีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อเป็นการสกัดเชื้อไวรัสโคโรนา พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อแก้ไขสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ราคาสินค้าโดยเฉพาะไข่ไก่ก็สูงขึ้น

โดยมีสาเหตุมาจากการที่พ่อค้าคนกลางอ้างว่า ราคาจากหน้าฟาร์มมีราคาสูงขึ้น ทำให้ราคาปลายทางสูงขึ้นตามไปด้วย หากประชาชนผู้บริโภคพบเห็นการเอาเปรียบของทั้งฟาร์มและพ่อค้าแม่ค้าในตลาดขายราคาสูงเกินจริง ให้แจ้งไปที่สายด่วน 1569

ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการเอาผิดตามฐานความผิดมาตรา29 ของ พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยมีรางวัลนำจับให้25% ของค่าปรับที่เกิดขึ้นจริง

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า การมีรางวัลนำจับก็จะช่วยให้ประชาชนให้ความสนใจในการแจ้งเบาะแส จนนำไปสู่การจับกุมดำเนินคดี ทำให้ผู้ที่เอาเปรียบประชาชนในช่วงที่เกิดวิกฤตเกิดความเกรงกลัว ไม่กล้าทำผิด โดยเฉพาะในช่วงของการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งถือว่ามีความเด็ดขาดเพราะไม่มีการรอลงอาญา

ดังนั้นจึงฝากไปถึงผู้ค้าสินค้าและบริการต่าง ๆ ไม่ควรฝ่าฝืนกฎหมาย โดยกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่า พร้อมจะดำเนินคดีกับทุกราย โดยดำเนินคดีเอาผิดตามมาตรา29 กว่า 100 รายแล้ว

อย่างไรก็ตามหากผู้ขายรายย่อยรับไข่มาจากฟาร์มในราคาที่สูงเกินราคาประกาศ ของสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไข่ไก่ ก็ควรจะมีหลักฐานในการซื้อขายเช่น บิลเงินสด หลักฐานการโอนเงินค่าไข่ เป็นต้น

เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถขยายผลการจับกุมดำเนินคดีไปถึงต้นทาง และผู้ค้ารายย่อยหากมีหลักฐานว่าซื้อมาจากฟาร์มที่มีการขายแพงเกินจริงก็อาจจะมีการบรรเทาโทษหรือถูกกันให้เป็นพยานแต่หากไม่มีหลักฐานว่ารับซื้อมาจากฟาร์มที่ขายให้แพงเกินจริงผู้ค้ารายย่อยรายนั้นก็จะตกเป็นผู้ต้องหาต้องรับโทษตามกฏหมาย

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัด ออกสำรวจตลาดฟาร์มไข่ไก่ในพื้นที่ทุกวัน และกำชับว่าให้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย อย่างตรงไปตรงมาไม่มีข้อละเว้น อยากให้ประชาชนเกิดความสบายใจว่า หน่วยงานภาครัฐปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันและปราบปรามผู้ที่เอาเปรียบประชาชนในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19

“ขณะนี้ปัจจัยต่างๆ ในสินค้าปศุสัตว์ ทั้งราคาอาหารสัตว์ ราคาน้ำมัน ไม่มีรายการใดปรับขึ้นราคาเลย รวมทั้งผลผลิตก็ยังไม่ลดลง จึงไม่มีเหตุผลที่ฟาร์มจะปรับขึ้นราคาไข่ได้ดังนั้นการที่ฟาร์มขายไข่ในราคาที่เกินจากสมาคมฯ ที่ประกาศไว้ ก็ถือว่าเป็นการทำผิดกฏหมายอย่างชัดเจน” นายสุชาติ กล่าว

นอกจากนี้จากการได้รับรายงานพบว่าในการค้าไข่ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ฟาร์มจะส่งให้ลูกค้าที่เป็นร้านค้ารายใหญ่เจ้าประจำก่อนจากนั้นร้านค้าเหล่านี้ก็จะกระจายสินค้าไปยังร้านค้าย่อยๆ และทราบมาว่าร้านค้าได้รับไข่น้อยลงประมาณ 20% จากที่เคยได้รับซึ่งอาจจะเกิดจากมีพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยไปรับซื้อไข่โดยตรงจากฟาร์มมากขึ้น

หากผู้ค้าถูกโก่งราคาจากฟาร์มขอให้เก็บหลักฐานการจ่ายเงินไว้และสามารถร้องเรียนมาได้ที่กรมการค้าภายในหมายเลขโทรศัพท์ 1569 ซึ่งจะถูกกันไว้เป็นพยานและขอฝากไปถึงผู้ที่ต้องการค้ากำไรเกินควรในช่วงนี้ว่าไม่คุ้มกับการที่ต้องจ่ายค่าปรับและติดคุก

อย่างไรก็ตาม คาดว่าสถานการณ์ ไข่จะดีขึ้น เพราะที่ผ่านมากระทรวงฯได้เข้มงวดกับการดำเนินคดีเอาผิด และขอให้ประชาชนอย่าแตกตื่นกักตุนอาหารเพราะแม้ว่าจะมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกมาแต่ก็ยังออกไปนอกบ้านซื้ออาหารได้ เพียงแต่ต้องระมัดระวังตัวในเรื่องของสุขอนามัยเป็นพิเศษ

ยืนยันว่าไข่และอาหารอื่นๆ ของไทยไม่ขาดแคลน หาซื้อได้ตามปกติ แต่ถ้าทุกคนกว้านซื้อไปตุนมากกว่าปกติที่เคยเป็นปริมาณมากๆก็อาจทำให้สินค้ามาเติมไม่ทัน