เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เผยแพร่คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 4/2560 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้

โดยระบุว่า เพื่อให้การสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในภาคใต้ให้เป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ จึงให้แต่งตั้งคณะกรรมการการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 17 คน

โดยมีองค์ประกอบ คือ มีผู้บัญชาการทหารบกหรือเลขาธิการ คสช. เป็น “ประธานกรรมการ” ขณะที่ พล.อ.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกหรือรองเลขาธิการคสช. รองปลัดกระทรวงพลังงาน รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็น “รองประธานกรรมการ”

ส่วนกรรมการ ได้แก่ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เลขาธิการสํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้อํานวยการสํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ผู้แทนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้แทนกรรมการผู้อํานวยการใหญ่บริษัท อสมท. จํากัด(มหาชน) ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ แม่ทัพภาคที่ 4  นอกจากนี้ พล.ท.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองเสนาธิการทหารบกหรือหัวหน้าส่วนอํานวยการ สํานักเลขาธิการ คสช. เป็นกรรมการและเลขานุการ  ขณะที่แม่ทัพน้อยที่ 4 และผู้แทนสํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็น กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

โดยคณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่กําหนดกรอบแนวทางการสร้างความรู้ ความเข้าใจและรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในภาคใต้ โดยให้จัดกิจกรรมภายในวันที่ 31 มี.ค.2560  รวมถึงอํานวยการและประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในระดับนโยบาย อีกทั้งเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงให้ข้อมูลหรือจัดส่งเอกสารที่จําเป็นเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาตามความเหมาะสม  อีกทั้งต้องรายงานผลการดําเนินงานนี้และจัดทําข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาแก่รัฐบาล ภายในวันที่ 28 เม.ย.2560  สั่ง ณ วันที่ 16 มี.ค.2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.

นอกจากนี้ มีประกาศราชกิจจาฯ คำสั่งคสช.ที่ 5/2560 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการการสร้างความรู้ ความเข้าใจฯ ที่มีจำนวน 31 คน ซึ่งมีแม่ทัพน้อยที่ 4 เป็นประธานฯ และพล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นรองประธานฯ  ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่  ส่วนกรรมการ ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ผวจ.ตรัง ผวจ.นครศรีธรรมราช ผวจ.พังงา ผวจ.พัทลุง ผวจ.ภูเก็ต ผวจ.ระนอง ผวจ.สงขลา ผวจ.สตูล ผวจ.ยะลา ผวจ.ปัตตานี ผวจ.นราธิวาส ผวจ.สุราษฎร์ธานี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก(ผบ.มทบ.) ที่ 41  ผบ.มทบ.ที่ 42  ผบ.มทบ.ที่ 43 ผบ.มทบ.ที่ 44 ผบ.มทบ.ที่ 45 ผบ.มทบ.ที่ 46 ผู้แทนผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ผู้แทนผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ผู้แทนผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 8 ผู้แทนผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 9 ขณะที่เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 เป็นกรรมการและเลขานุการ รวมถึงผู้อํานวยการกองกิจการพลเรือนกองทัพภาคที่ 4 และรองผู้อํานวยการกองกิจการพลเรือนกองทัพภาคที่ 4 เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

โดยคณะอนุกรรมการฯ มีหน้าที่สร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในภาคใต้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และบรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม ประสานงานและเร่งรัดการดําเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในพื้นที่ และกําหนดมาตรการการรักษาความปลอดภัย อีกทั้งจัดการประชุมหรือเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือภาคเอกชนในพื้นที่มาให้ข้อมูล และต้องรายงานผลการดำเนินงานดังกล่าวในระดับพื้นที่แก่คณะกรรมการการสร้างความรู้ฯ ภายในวันที่ 21 เม.ย.2560

สั่ง ณ วันที่ 16 มี.ค. 2560
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคสช.