“ชูศักดิ์” เห็นต่าง “วิษณุ” ชี้ หากจำเป็น อาจประชุมใหญ่พรรคการเมืองหลังเดือนเม.ย.ได้

“ชูศักดิ์” เห็นต่าง “วิษณุ” ชี้ หากจำเป็นอาจประชุมใหญ่พรรคการเมืองหลังเดือนเม.ย.ได้

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคการเมืองจะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่ภายในเดือนเมษายนของทุกปี ในปีนี้ทุกพรรคเจอปัญญาโควิด-19 อาจทำให้ไม่อาจจัดประชุมได้ภายในเวลาดังกล่าวนั้น พรรคพท.ได้มีหนังสือสอบถามไปยังกกต.เช่นเดียวกันกับพรรคการเมืองอื่นๆว่าหากจัดประชุมไม่ได้จริงๆในสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคอยู่ จะเลื่อนการประชุมออกไปได้หรือไม่ หรือจะต้องปฏิบัติอย่างไร ถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบจาก กกต. ทั้งนี้ ส่วนตัวมีความเห็นว่าปกติการประชุมใหญ่จะมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมไม่ตำ่กว่า 200 คน จึงเป็นการรวมตัวของคนจำนวนมาก ต้องใช้ห้องประชุม ถึงขณะนี้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยง งด เลื่อนการที่จะเอาผู้คนจำนวนมากๆมาอยู่รวมกัน กรรมาธิการของสภา วงการอื่นๆต่างก็หลีกเลี่ยงเช่นกัน ล่าสุดข้อกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็ห้ามมิให้ชุมนุม กระทำกิจกรรมในสถานที่แออัด ตนเองเคยคิดเรื่องประชุมแบบสื่อสารทางใกล แต่คงลำบากเพราะสมาชิกกระจายอยู่เกือบทุกจังหวัดทั่วประเทศ และหากจะมีวาระเลือกตั้งกรามการบริการพรรคด้วยซึ่งต้องประชุมลับและลงคะแนน ก็คงปฏิบัติไม่ได้ ซึ่งตนเองพยายามตรวจสอบกฎหมายพรรคการเมืองอย่างละเอียด ก็ไม่ปฏิเสธว่าเขียนไว้แบบไม่มียกเว้นให้จัดประชุมภายในเดือนเมษายน ถ้าไม่ทำปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท และปรับอีกวันละหนึ่งพันบาทตลอดเวลาที่ไม่ทำ ที่น่าสนใจกรณีนี้เป็นเหตุให้สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง โดยกฎหมายเขียนเหตุว่า ”ไม่จัดให้มีการประชุมใหญ่เป็นระยะเวลาติดต่อกันหนึ่งปีโดยมิได้มีเหตุอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย”

“ส่วนตัวจึงเห็นว่าอย่างแรกพรรคการเมืองต้องมีเจตนาไม่จัดให้มีการประชุมใหญ่ ถ้ามีเจตนาจะประชุมแต่ประชุมไม่ได้ ไม่ควรจะถือว่าพรรคการเมืองมีเจตนากระทำผิด อย่างที่สองยังเห็นว่าหลักกฎหมายทั่วไปเช่นความจำเป็น เหตุสุดวิสัย ต่างๆไม่จำเป็นต้องเขียนไว้ในกฎหมาย เพราะถือเป็นหลักกฎหมายทั่วไปที่ยกมาอ้างได้เสมอ เมื่อ ก.ก.ต. เองเป็นผู้รักษาการตามกฎหมานพรรคการเมือง และจะต้องเป็นผู้ชี้ผิดชี้ถูกต่อพรรคการเมือง เรื่องนี้น่าจะมีทางออกเพราะมีเหตุผลที่จะอ้างได้ตามที่กฎหมายพรรคการเมืองเขียนไว้“ นายชูศักดิ์ กล่าว