25 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย โพสต์เตือน aftershock ที่น่าห่วงภายหลังการระบาดของCovid-19 ว่า

มากกว่าพิษ Covid-19 ที่กำลังระบาด ตอนนี้ปชช.ส่วนใหญ่เริ่มรู้สึกถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจแบบฉับพลัน

ถ้าเป็นพนักงานรายวัน หลายคนก็อาจจะตกงานเรียบร้อยแล้ว เพราะการจ้างงานที่หายไป สืบเนื่องจากมาตรการ Lock down ของรัฐบาล

ถ้าเป็นพนักงานเงินเดือนก็ต้องหยุดงาน และไม่มีเงินส่งกลับครอบครัวที่อยู่ต่างจังหวัดอีกต่อไป กลายเป็น Domino effect กระจายทั่วประเทศ อีกทั้งระดับการอุปโภคบริโภคที่ลดลงในวงกว้าง เพราะการรัดเข็มขัดในยามวิกฤต

ถ้าเป็นผู้ประกอบการก็กำลังอยู่ในช่วงที่ฝืดเคืองที่สุด โดยเฉพาะภาคบริการ ตัวอย่างเช่น กิจการในวงท่องเที่ยว ร้านอาหาร สันทนาการต่างๆ (เพราะไม่ได้สินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพ) จนไม่สามารถแบกรับภาระรายจ่ายประจำที่ไม่มีรายรับได้ สิ้นเดือนเงินหมุนไม่พอจ่ายเงินกู้ จนจะต้องปิดกิจการ ถ้าเถ้าแก่รายย่อยกลุ่มนี้ไม่สามารถประคองชีวิตให้พ้นวิกฤตนี้ไปได้ ความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยก็จะตายไปด้วยเพราะ SME เหล่านี้ฟันเฟืองสำคัญที่จะนำร่องสร้างผลิตภาพ (Productivity) ของประเทศเมื่อครั้งวิกฤตโรคระบาดเบาบางลง

คนหาเช้ากินค่ำทั่วไป ไม่ต้องพูดถึงเลย กระทบตั้งแต่ยังไม่สั่งปิดเมือง

นี่คือ aftershock ของ COVID-19 ที่น่ากลัวกว่าตัวไวรัสเองซะอีก ทั้งหมดที่ร่ายมานั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องรับมือ
โรคระบาดมาแล้วก็ไป แต่สิ่งที่จะฆ่าประชาชนทั้งเป็นคือพิษเศรษฐกิจ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มี Social safety net หรือ ตาข่ายขั้นสุดท้ายที่คอยรองรับประชาชนที่ประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ

ศักยภาพของรัฐบาลมีจริงหรือไม่นั้น คงขึ้นอยู่กับความสามารถที่จะคลายทุกข์เพิ่มความสุขให้กับคนในชาติ ไม่งั้นก็คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีรัฐบาล(เฮงซวย)ต่อไป