“เพื่อไทย” ดักคอ พรก.ฉุกเฉิน เป้าหมายควบคุมการระบาด อย่าใช้ควบคุมสื่อ-เสรีภาพปชช.

“เพื่อไทย” ดักคออย่าขยายขอบเขต พรก.ฉุกเฉิน ชี้ ควรมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเป็นสำคัญ ไม่ควรมีเป้าหมายเพื่อการควบคุมสื่อ-ลิดรอนสิทธิเสรีภาพปชช.

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงมาตรการสำคัญสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คือ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไปจะมีการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ว่า สรุปเป็นการแถลง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ยังไม่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในวันนี้ นอกเหนือจากการที่ประชาชนต้องเสียสมาธิกับการแถลงของพล.อ.ประยุทธ์ เดี๋ยวหน้ากากอนามัยหลุด เดี๋ยวแว่นตาหล่น แถลงเสร็จก็ลุกลี้ลุกลนเดินออกไป ไม่ได้อยู่ตอบคำถามเพิ่มเติมใดๆ จากนักข่าว ส่วนของเนื้อหาที่แถลงก็ดูว่ามีความย้อนแย้งอยู่ในตัวเอง คือ จะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในวันที่ 26 มีนาคมเป็นต้นไป แต่เบื้องต้นจะขอความร่วมมือจากประชาชนก่อน ประชาชนจึงเกิดคำถามว่าถ้าจะใช้วิธีการขอความร่วมมือแล้วทำไมต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หลักการสำคัญของการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควรมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเป็นสำคัญ ไม่ควรมีเป้าหมายเพื่อการควบคุมสื่อ หรือลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน รวมถึงไม่ควรมีการขยายขอบเขตของการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปเพื่อการอื่น มีคำถามว่าหลังการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หากประชาชนจะร้องเรียนเรื่องหน้ากากอนามัย เจล แอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อขาดตลาดหรือราคาแพง จะสามารถร้องทุกข์กับรัฐบาลได้หรือไม่ จะตกเป็นกลุ่มที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่

“ประชาชนมีความตื่นตัวและพร้อมอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แต่มาตรการใดๆ ที่ออกมา หากแถลงให้มีความชัดเจนได้มากและทันสถานการณ์ ประชาชนก็พร้อมจะปฏิบัติตัวให้ถูกและให้ความร่วมมือกับแพทย์พยาบาล และบุคลากรทางการสาธารณสุข เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ดีขึ้น” นายอนุสรณ์ กล่าว