พล.ท.ภราดร ชี้ รบ.นี้เก่งแต่เพิ่มวิกฤติ! แก้ปัญหาหนึ่งแต่กลับไปสร้างอีกปัญหาหนึ่งแทน

25 มี.ค.63 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษ(กพศ.)พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าประวัติศาสตร์สอนให้เรารู้ว่าผู้นำที่มาจากเผด็จการยึดอำนาจและสืบทอดอำนาจนั้นไม่เคยเห็นประชาชนอยู่ในสายตา ฉะนั้นสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในยามนี้เมื่อเรามีคำแนะนำใดๆไปยังเขามันก็เสมือนเสียงแว่วเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของเขาเท่านั้นเอง เขาหลงว่าตัวเองเก่งใครอย่ามาสอนทั้งๆที่มาตรการแรกที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนคือการจัดหาหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอลล์ให้เพียงพอในราคาที่เป็นธรรมก็ยังทำไม่ได้ ทั้งๆที่ความจริงของไม่ได้ขาดแคลนเพราะถ้ามีเงินจ่ายแพงก็มีของขายให้

ดังนั้นมาตรการอื่นๆที่รัฐบาลกำหนดตามมาจึงขาดการยอมรับจากประชาชนไปโดยปริยาย อีกทั้งมาตรการที่ออกมาก็มีแต่เป็นสภาพบังคับแต่การเยียวยามีแต่ความคลุมเครือ เก่งแต่เพิ่มวิกฤติแก้ปัญหาหนึ่งแต่กลับไปสร้างอีกปัญหาหนึ่งขึ้นมาแทนใหม่เหมือนลิงแก้แห ขนาดถึงขั้นประกาศเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินออกมาแล้วประชาชนก็ยังงงงวยไม่เชื่อมั่นกลับระแวงเป็นว่าจะถูกปิดปาก

อย่างไรก็ดีในยามนี้ย่อมไม่มีใครรู้ข้อมูลตัวแบบจำลองของปัญหารวมทั้งสถานภาพงบประมาณและทรัพยากรใดๆในการแก้ไขปัญหาได้ดีกว่ารัฐบาล ดังนั้นผู้นำรัฐบาลต้องมีภาวะผู้นำผนึกทรัพยากรทั้งปวงฝ่าฟันปัญหาไปให้ได้

ขณะเดียวกันองค์กรใดไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลสืบทอดอำนาจหรือปีกพรรคร่วมประชาธิปไตยต่างต้องตระหนักเสมอว่าถ้าผู้นำไม่สามารถนำพาสมาชิกบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ก็ต้องมีสำนึกแสดงสปิริตความรับผิดชอบถอยออกจากตำแหน่งไปด้วยตนเองไม่ต้องรอให้ใครมาไล่ ณ เวลานี้พี่น้องประชาชนคาดหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จึงจ้องจับตามองการกระทำของทั้งสองฝ่ายอยู่ ถ้าเห็นว่ามีการเกี้ยเซี้ยะและมีพฤติการณ์ที่ว่าว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองคือไร้สปิริตความรับผิดชอบเหมือนๆกันนั่นแหละ ประชาชนก็คงต้องออกมาสั่งสอนเป็นแน่แท้