เมื่อวันที่ 23 มีนาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเสียงจากโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 1 ทั้งด้านเหนือและใต้ของสนามบิน ว่าโดยได้รับความเดือดร้อนและเสียหายอย่างมาก จากการประกอบการของสนามบินตั้งแต่วันที่เปิดทำการถึงปัจจุบัน ยังไม่ได้รับการเยียวยาที่เหมาะสม ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 58 วรรคสาม บัญญัติไว้ ขณะที่ตัวแทนของประชาชนที่เดือดร้อนและเสียหายพยายามจะยื่นข้อเรียกร้องให้ทางคณะกรรมการบอร์ดและผู้บริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และกระทรวงคมนาคม ให้ดำเนินการเยียวยาให้เสร็จสิ้นโดยเร็วแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบสนองให้เป็นไปตามข้อเสนอแต่อย่างใด ในทางกลับกันยังมีความพยายามที่จะขยายสนามบินสุวรรณภูมิออกไปอีกใน เฟสที่ 2-3 โดยเฉพาะการสร้างรันเวย์ที่ 3 ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ส่วนการดำเนินการตามมาตรการและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ยังดำเนินการยังไม่ครบถ้วน

“กรณีที่ ทอท. กระทรวงคมนาคม และรัฐบาลจะดำเนินการขยายโครงการสนามบินสุวรรณภูมิเป็นเฟสที่ 2 จึงเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ตามมาตรการที่กำหนดไว้ในเฟสที่ 1 ยังไม่แล้วเสร็จ ด้วยเหตุนี้สมาคมฯ และตัวแทนชาวบ้าน มีข้อเสนอมายังคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) เพื่อให้มีมติสั่งการไปยังบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด เพิ่มเติมข้อเรียกร้องของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสนามบินสุวรรณภูมิจำนวน 3 ข้อ ลงในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ฉบับใหม่ ประกอบด้วยกลุ่มบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่ในแนวเส้นเสียง NEF 30-40 ในเฟสที่ 1 ที่ต้องการขาย จำนวน 75 หลังคาเรือน ให้เร่งเจรจาซื้อโดยเร็ว”นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า กรณีที่ผู้ได้รับผลกระทบฯ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการชดเชยปรับปรุงหรือซื้อขายกับ ทอท. ขอให้มีคนกลาง หรืออนุญาโตตุลาการ เข้ามาดูแลในเรื่องของราคาชดเชยปรับปรุงบ้านและราคาซื้อขายบ้าน และขอให้ชดเชยเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเสียงที่มีบ้านเรือนตั้งอยู่ระหว่างรันเวย์ที่ 1 และรันเวย์ที่ 2 หรือเรียกว่า “ช่องว่างหูกระต่าย” ทั้งฝั่งทิศเหนือและใต้ของสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากการบินของสายการบินต่าง ๆ มีการบินนอกเส้นเสียงอยู่เป็นประจำ ทั้งนี้สมาคมฯและชาวบ้านจะเดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในวันที่ 23 มีนาคม เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซ.พิบูลวัฒนา 7 ถ.พระราม 6 พญาไท กทม.