“จาตุรนต์” แนะเริ่มปิดประเทศก่อน เลี่ยงไทยเจอหายนะ “โควิด-19”

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย และอดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว Chaturon Chaisang ระบุว่า ประเทศไทยยังมีโอกาสหลีกเลี่ยงหายนะได้ ถ้า…. (ตอนที่ 2)

ปิดประเทศ !!!

“ยุทธศาสตร์ในการจัดการกับโคโรนาไวรัสของทั่วโลกนั้นคือต้องควบคุมไม่ให้มีการแพร่เชื้อจากคนสู่คนคือไม่ให้ผู้ติดเชื้อกับคนปรกติสัมผัสกัน แต่ประเทศไทยกลับเปิดเสรีให้ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเข้าประเทศมาอย่างไม่จำกัดและไม่มีการกักตัว สภาพอย่างนี้ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้”

ขอเสนอมุมมองทางด้านนโยบายว่าเราจะต้องเตรียมรับกับอะไรและเฉพาะหน้าจะต้องตัดสินใจเรื่องอะไร

สถานการณ์ในประเทศน่าเป็นห่วงมากขึ้นทุกที

ขณะนี้หลายประเทศเข้าสู้ขั้นที่แพร่ระบาดภายในอย่างกว้างขวางและรวดเร็วชนิดที่คงหยุดไม่อยู่ในเร็วๆนี้แล้ว

แต่ก็มีบางประเทศที่เริ่มมีปัญหามาแต่แรกที่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้

จีนคุมเข้ม ปิดเมือง อยู่แต่ในบ้าน ควบคุมสถานการณืได้แล้ว

ไต้หวันห้ามคนจากประเทศเสี่ยงเริ่มจากจีนและซึ่งอยู่ติดกันเข้าประเทศโดยเด็ดขาดตั้งแต่เนิ่นๆ ให้ความรู้ในการปฏิบัติตัว ไม่ปิดบ้าน เมื่อไม่มีการระบาดก็สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศได้ด้วย

สิงคโปร์มีระบบสาธารณสุขที่ดีเยี่ยม ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันการติดเชื้อ เน้นการตรวจหาเชื้อ ควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัด แต่ไม่ปิดโรงเรียน เน้นการจำกัดการเข้าประเทศจากประเทศเสี่ยตั้งแต่ต้น การคัดกรอง ติดตามหาผู้ที่อาจติดเชื้อและการกักตัวที่เคร่งครัดมีประสิทธิภาพ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด

ฮ่องกง ทั้งรัฐบาลและประชาชนมีประสบการณ์จากการรับมือกับซารส์มาก่อน จึงใช้มาตรการต่างๆได้ดี ประชาชนรู้ว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไร ที่สำคัญคือการเข้มงวดอย่างมากต่อผู้ที่เดินทางมาจากจีนและประเทศเสี่ยงมาตั้งแต่ต้น

อีกหลายประเทศที่จัดการได้ดี มีผู้ติดเชื้อเพิ่มน้อยและช้า ใช้มาตรการเข้มภายในในลักษณะต่างๆกัน แต่ที่มีจุดร่วมกันก็คือการจำกัดการเข้าประเทศอย่างเด็ดขาดและมีการกักตัวอย่างเข้มงวด

ความจริงมาตรการที่ใช้ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสที่ใช้กันอยู่ในประเทศต่างๆก็พอเป็นที่รู้กันอยู่

ปัจจัยของความสำเร็จหรือล้มเหลวอยู่ที่ความรวดเร็วทันการณ์ ความเป็นระบบ มาตรการที่ชัดเจน การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด ความโปร่งใสความน่าเชื่อถือและการมีส่วนร่วมของประชาชน การจะใช้มาตรการใดเข้มข้นแค่ไหนก็แตกต่างกันไปตามสภาพเงื่อนไขของแต่ละประเทศและในแต่ละช่วงเวลา

สำหรับประเทศไทย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนเป็นประเทศแรกก็มีการใช้มาตรการต่างๆแล้วหลายด้านมีการให้ความรู้ต่อประชาชนค่อนข้างดี ด้านอื่นๆมีปัญหามาก

ที่สำคัญก็คือมาตรการต่างๆส่วนใหญ่ไม่ทันการณ์ ไม่ชัดเจน ไม่เข้มงวดเคร่งครัดและไม่เป็นระบบ ขาดการวางแผนให้ดีเสียก่อนที่จะใช้และมีลักษณะต่างคนต่างทำ ขาดเอกภาพและการบูรณาการหรือประสานงานระหว่างผู้รับผิดชอบ

จำเป็นต้องมีการยกเครื่องมาตรการทุกด้านครั้งใหญ่ ซึ่งคงต้องช่วยกันคิดช่วยกันเสนอต่อไป

แต่เรื่องเร่งด่วนเฉพาะหน้าที่ควรทำก่อนเรื่องอื่นก็คือต้องรีบจำกัดวงของปัญหาให้เล็กลงเสียก่อน นั่นก็คือต้องไม่ปล่อยให้มีการเดินทางจากประเทศเสี่ยงอย่างเสรีอีกต่อไป จะได้เหลือแต่การควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศเท่านั้น

ที่ผ่านมาน่าจะเรียกได้ว่าประเทศไทยเป็นเพียงประเทศเดียวที่ใช้นโยบายเปิดเสรีให้ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงโดยไม่มีการคัดกรองที่มีประสิทธิภาพคือมีเพียงการวัดไข้ซึ่งแทบไม่ได้บอกอะไร มีการกักตัวดูแลคนไทยกลุ่มเล็กๆอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่มีการกักตัวที่มีประสิทธิภาพหรืออาจพูดได้ว่าไม่มีการกักตัวใดๆเลย

เมื่อไม่มีการติดตามว่าผู้ที่มาจากประเทศเสี่ยงอยู่ที่ไหน ทำอะไร และเมื่อผู้ที่เดินทางเข้ามาไปแพร่เชื้อมากขึ้นก็ไม่มีการห้ามการทำกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากและแออัด การแพร่ระบาดก็เกิดขึ้น จนถึงขั้นที่เป็นการระบาดจากภายในประเทศด้วยกันเองแล้ว จึงเพิ่งห้ามการทำกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากบางประเภท

ล่าสุดนายกรัฐมนตรีพูดเชิญชวนให้คนในกรุงเทพและปริมณฑลอยู่บ้านซึ่งก็ไม่ใช่มาตรการที่ชัดเจน ไม่มีกำหนดเวลาและไม่ได้ประกาศหยุดงาน ล่าสุดก็มีการปิดสถานที่ต่างๆเพิ่มขึ้นในกรุงเทพและปริมณฑลซึ่งก็ไม่มีมาตรการรองรับปัญหาที่ตามมา ขณะที่รัฐบาลยังปล่อยให้คนเดินทางจากประเทศเสี่ยงเข้าประเทศมาได้วันละหลายพันคนโดยเสรี ย้อนแย้งกันที่สุด

ยุทธศาสตร์ในการจัดการกับโคโรนาไวรัสของทั่วโลกนั้นคือต้องควบคุมไม่ให้มีการแพร่เชื้อจากคนสู่คนคือไม่ให้ผู้ติดเชื้อกับคนปรกติสัมผัสกัน แต่ประเทศไทยกลับเปิดเสรีให้ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเข้าประเทศมาอย่างไม่จำกัดและไม่มีการกักตัว สภาพอย่างนี้ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้

ปล่อยไว้เช่นนี้ จะเสียหายยับเยิน

ดังนั้นต้องมาวางแผนจัดระบบกันใหม่หมดและเรื่องที่ต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือการ “ปิดประเทศ” ครับ

“ปิดประเทศ” แปลว่าอะไร จะยกเครื่องมาตรการต่างๆอย่างไร คุยกันต่อครับ