“อนุทิน” เผย WHO แนะไทยมาถูกทาง ยัน มาตรการรัฐฯ ทำดีอยู่แล้ว

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. และ นายแดเนียล เคอร์เทสซ์ (Dr. Daniel Kertesz) ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจําประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหารือแนวทางป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ร่วมกับองค์การอนามัยโลก(WHO) ประจำประเทศไทย กรณีที่มีผู้จงใจและมีพฤติกรรมที่แพร่เชื้อในที่สาธารณะ เช่น รถไฟฟ้าบีทีเอส(BTS) ตามที่เป็นข่าวในโลกออนไลน์ นายอนุทิน กล่าวว่า กรณีนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายคือบีทีเอสจะต้องรีบไปแจ้งความดำเนินการทันทีและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด สธ.อาจจะต้องส่งกรมสุขภาพจิตเข้าไปดูแล เมื่อถามว่ากรณีที่ผู้ป่วยออกมาแสดงข้อมูลว่ารัฐบาลให้ข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นายอนุทิน กล่าวว่า หากให้ไม่ตรงจะพบผู้ป่วยวัน 50-60 รายเช่นนี้หรือ อยากให้ฟัง สธ.ที่เป็นผู้แถลงข่าวทุกวันอยู่แล้ว ไม่มีนโยบายให้ปิดข้อมูล ตัวเลขที่พบผู้ป่วยเยอะๆ เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา แต่ที่เพิ่มมากขึ้นคือกลุ่มคนเดียวกันที่ไม่ระมัดระวังตนเองและไม่มีสำนึกต่อส่วนรวม จึงทำให้เดือดร้อนกัน ซึ่งเป็นบทเรียนและอย่าทำพฤติกรรมเช่นนี้อีก เพราะ 1 คนที่ป่วยทำให้คนเดือดร้อนเป็นร้อย “ยาที่เคยขาด ก็เจรจาจนไปซื้อมาได้ หน้ากากที่เคยขาดก็ไปเจรจามาได้ ต้องใช้มาตรการให้ได้มา ชุดป้องกันเชื้อที่มีหมื่นกว่าชุดก็เอามาเพิ่มให้ได้หลายหมื่น ประกันภัยบุคลากรที่ต้องดูแลคนป่วย ก็มีผู้ที่มีจิตศรัทธาบริจาคให้ เวชภัณฑ์ต่างๆสินค้าต่างๆ แอลกอฮอล์เจล 3 หมื่นลิตร ยาหรือสิ่งป้องกันโรค ก็มีคนบริจาคมา ผมก็รีบแจกออกไปทั่วประเทศให้มากที่สุด ใช้คอนเน็กชั่นทั้งส่วนตัวและราชการที่มีเพราะเป็นหน้าที่ของผม ส่วนความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมเป็นหน้าที่ของประชาชน” นายอนุทิน กล่าว

  นายอนุทิน กล่าวว่า หากเจอผู้ที่คิดร้ายต่อสังคม ไม่ระมัดระวังและตั้งใจแพร่เชื้อ สังคมต้องช่วยกันสอดส่องดูแล เพราะเป็นช่วงที่ไม่ปกติ สธ.ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว ส่วนเรื่องของสุขภาพจิตคนไทยทางกรมสุขภาพจิตโดยทีมที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิตแก่ทีม MCATT ได้ดำเนินการตามสถานการณ์อยู่แล้ว เพื่อทำให้ประชาชนวิตกกังวลน้อยที่สุด รวมถึงอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน(อสม.) เพื่อนบ้านจะต้องช่วยสอดส่องดูแลว่าคนรอบข้างมีใครแสดงอาการทางสุขภาพจิต เพื่อรีบพาไปรับการรักษาได้ในทุกโรงพยาบาลที่เปิดบริการ เมื่อถามว่า WHO ได้มีคำแนะนำอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องของเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) ที่รัฐบาลได้ออกมาตรการไปให้ประชาชนอยู่ห่างกันให้มากที่สุด หากทุกคนให้ความร่วมมือจะเป็นมาตรการที่ดีที่สุด ดีกว่าวัคซีนด้วยซะอีก และบอกว่าประเทศไทยมาถูกทางแล้ว เมื่อถามว่ามีผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่ได้เป็นแพทย์แต่ได้เป็นรัฐมนตรีสธ. บั่นทอนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สธ.มีคนที่ไม่ได้เป็นแพทย์แต่มาเป็นรัฐมนตรีมากกว่ารัฐมนตรีที่เป็นแพทย์หลายเท่า ตนก็ไม่ใช่คนแรกที่ไม่ใช่แพทย์แล้วมาเป็นรัฐมนตรี ซึ่งเข้ามาบริหารงาน ไม่ได้เข้ามาเพื่อรักษาผู้ป่วย “เรื่องของระยะการระบาดไม่มีเรื่องของการเมืองมาปะปนอยู่แล้ว เพราะเป็นภารกิจหน้าที่สาธารณสุขล้วนๆ ไม่ได้คิดเรื่องการเมือง 2 เดือนครึ่งแล้ว ประชุมพรรคยังไม่เข้าประชุมเลย ไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่มีการตอบกระทู้ และไม่มีเวลาคิดเรื่องการเมืองขนาดนั้น ทำงานตามหน้าที่เข้าไปพรรคก็เป็นหัวหน้าพรรค แต่อยู่ในกระทรวงเป็นรัฐมนตรีว่าการสธ. แยกแยะชัดเจนอยู่แล้ว” นายอนุทิน กล่าว เมื่อถามว่านายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ติดเชื้อไวรัสหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เบื้องต้นเขาบอกว่าไม่ติด แต่หากเป็นตนจะดูแลตนเองทุกวัน ตรวจวัดไข้ทุกวันจนกว่าจะครบ 14 วัน แต่จะต้องกักกันตนเอง ถึงแม้วันนี้ยังไม่เจอเชื้อ ผลออกมาเป็นลบ แต่ควรจะตรวจอาการทุกวันและขอให้ท่านหายเร็วๆ นายแดเนียล กล่าวว่า มีเรื่องจำเป็นต้องทำ 2 อย่าง คือ 1.ดำเนินการมาตรการทางสาธารณสุขเชิงรุก ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลไทยทำได้ดีอยู่แล้ว เช่น การระบุผู้ป่วย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ(แล็บ)ผู้ต้องสงสัย การแยกผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อไปยังคนอื่น รวมทั้ง การค้นหาผู้ที่มีประวัติสัมผัสเชื้อ ซึ่งประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องยังคงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น และกำลังสงสัยว่าจำนวนผู้ป่วยในชุมชนจะเพิ่มขึ้นด้วย และเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาระยะห่าง ซึ่งไทยดำเนินการอยู่แล้ว และเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการรักษาระยะห่าง เมื่อถามว่าประเทศไทยจำเป็นต้องปิดประเทศหรือไม่ นายแดเนียล กล่าวว่า ปิดประเทศหมายถึงอย่างไร แต่ส่วนตัวคิดว่าทุกคนจะต้องตระหนักในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ อย่างเช่น ยังคงรักษาระยะห่างไว้หรือไม่ ไม่ไปบาร์ ไม่ไปร้านอาหาร ทุกคนต้องเสียสละในส่วนนี้