เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นายกษิต ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แสดงความเห็นกรณีปัญหาการบริหารการสั่งการของรัฐบาลในวิกฤตโควิด-19 ระบาด ระบุว่า

พลันได้ยินข่าวแวบแรกว่า “รัฐบาลให้อำนาจ ผู้ว่าฯ ปิดเมือง” ก็รู้สึกแปลกใจว่า จู่ๆ รัฐบาลนี้จะหันเหจากที่เคยรวบอำนาจไว้ส่วนกลาง แล้วหันไปกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นกันแล้วหรือ?

พอไปติดตามรายละเอียดข่าวต่างๆ ก็ถึงบางอ้อ ว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ที่ถนัดใช้แต่อำนาจ เอาแต่สั่ง เช่นเคย

ทั้งๆ ที่เรื่องการสกัดกั้นโรคระบาดรุนแรงเช่นนี้ ส่วนกลางควรจะออกระเบียบ และขั้นตอนปฏิบัติ ให้เป็นกระบวนการมาตรฐาน แล้วให้ทางท้องถิ่นไปดูแลปรับใช้ตามสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่เพื่อให้เหมาะสม

ดูตัวอย่างอย่าง มาเลเซีย ที่เขาจะปิดประเทศ ส่วนกลางเขาก็บอกวันเวลา และขั้นตอนเลย ว่าคนต่างชาติห้ามเข้า (แต่ออกไปได้ ก่อนออกไปต้องถูกตรวจก่อน)

ส่วนคนชาติเขาเองยังกลับเข้ามาเลเซียได้ แต่จะต้องถูกกักตัว 14 วัน ก่อนออกไปสู่สังคม
ท้องถิ่นเขาก็ขานรับ เริ่มยกเลิกการเดินทางระหว่างรัฐ ระหว่างจังหวัด เขารู้ว่า ธุรกิจอะไร สถานที่ใด จะต้องปิดทำการบ้าง เพื่อลดการรวมตัวกันของประชาชน ลดการเดินทางข้ามเขต  ทั้งหมดเพื่อสกัดกั้นการแพร่เชื้อ

ผมก็ไม่รู้ว่า การที่ไปขู่ข้าราชการว่า ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ ก็แค่ย้าย โดยไม่มีการกำหนดขั้นตอน หรือวิธีการอะไรเลย มันจะไปช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างไร

ผู้ว่าจะไปสั่งห้ามรถทัวร์เข้าจังหวัดกันอย่างไร เมืองที่เป็นทางผ่านของรถไฟ รถไฟจะผ่านได้ไหม คนต่างจังหวัดจะกลับเข้าจังหวัดตัวเองได้หรือไม่ จะกลับยังไง

ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครบอกให้เข้าใจ ผู้ว่าฯ ก็ทำแต่ออกประกาศปิดเมือง แต่ประชาชนไม่รู้ว่า ปิดเมืองที่ท่านว่า มันหมายถึงอะไรแต่ถ้าจะให้ผู้ว่าฯ สั่งปิดสถานที่ราชการ หรือสถานบริการต่างๆ ก็อธิบายให้ประชาชนได้รู้ ไม่ใช่ไปกระพือความกลัวด้วยคำว่า “ปิดเมือง” เฉยๆ โดยไร้คำอธิบายให้กับสังคม

และแทนที่รัฐบาลจะช่วยประสานงานให้กับจังหวัดที่เกิดปัญหา กับจังหวัดรอบๆ ข้าง ว่าจะส่งความช่วยเหลืออย่างไรเมื่อมีการระบาดของโรค และระบาดขั้นไหนจึงจะถึงเวลาที่ต้องตัดการเดินทางเข้าออกจังหวัด และหาทางอ้อมในการเดินทางให้กับการขนส่งสาธารณะ

รัฐบาลกลับทำแค่ “ให้อำนาจผู้ว่าฯ ไปดำเนินการเอง” นี่มันไม่ใช่การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น แถมการที่มาคาดโทษว่า ผู้ว่าจะถูกสั่งย้าย ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น นั้นมันเป็นการปัดความรับผิดชอบของตนเองในฐานะรัฐบาลออกไป และทำให้สังคมเข้าใจผิดว่า ถ้าเกิดปัญหา ก็เพราะผู้ว่าฯ ไร้ความสามารถ ไม่ใช่รัฐบาลนะ

ที่ผ่านมา ประเทศไทยยื้อระยะไม่ให้เข้าระดับ 3 ในการแพร่ระบาด ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับ บรรดาบุคลากรทางการแพทย์ของไทยล้วนๆ ที่ทุ่มเทกันต่อสู้กับเชื้อโรคอย่างเต็มความสามารถ (แต่พอนักการเมืองลงมาช่วยสั่งการ อย่างแค่เรื่องการกระจายหน้ากากอนามัยเท่านั้น – ความวุ่นวายในการแกไขปัญหาก็เกิดขึ้นซ้ำซ้อนทันที)

จริงอย่างที่ท่านนายกว่า “หากผู้ว่าฯทำไม่ได้ก็ย้ายผู้ว่าฯจะยากตรงไหน” เพราะการย้ายผู้ว่าฯ (ที่ถูกโยนความรับผิดชอบไปให้) น่ะง่าย แต่ที่น่าสงสัยก็คือว่า ถ้ารัฐบาลยังไม่สามารถแสดงฝีมือในการปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ยั่งงี้ต่อไปเรื่อยๆ

จะมีใครไปสั่งย้ายรัฐบาลได้บ้างไหมหนอ?