เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รุ่งนภา ขันธีโชติ ผู้อำนวยการสำนักบริการทางการแพทย์ประจำรัฐสภา ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ลงวันที่ 18 มีนาคม เกี่ยวกับการคัดกรองโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ในบุคลากรกลุ่มเสี่ยง ระบุว่า ตามที่สำนักพัฒนาบุคลากร สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อนุมัติข้าราชการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 14 คน และข้าราชการสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา 11 คน เข้าฝึกอบรมหลักสูตรนักกฎหมายภาครัฐระดับชำนาญการขึ้นไป รุ่น 27 ที่โรงแรมเอส ดี อเวนิว กรุงเทพฯ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการฝึกอบรมได้มีการกล่าว อ้างว่า มีข้าราชการสรรพากร จ.ฉะเชิงเทรา รวมถึง ญาติ และเจ้าหน้าที่หน้าห้องนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ฉะเชิงเทรา ที่ติดเชื้อโควิด-19 เข้าร่วมการอบรมครั้งนี้ด้วย

ทางสำนักบริการทางการแพทย์เห็นว่า ญาติของนายกิตติ และเจ้าหน้าที่หน้าห้องของนายกิตติ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยง แม้ผู้เข้าฝึกอบรมของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะแจ้งต่อสำนักงานบริการทางการแพทย์ประจำรัฐสภา ว่าเจ้าหน้าที่หน้าห้องของนายกิตติไม่ติดเชื้อโควิด-19 ก็ตาม แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่า บุคคลดังกล่าวจะไม่มีเชื้อโควิด-19 แฝงอยู่ จนกว่าจะมีการตรวจคัดกรองเชื้อ และมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่า ผลการติดเชื้อเป็นลบ ดังนั้น สำนักงานบริการทางการแพทย์ประจำรัฐสภาจึงประสานไปยังผู้อำนวยการสำนักพัฒนาบุคลากร ให้ติดต่อไปยังผู้เข้าฝึกอบรมทั้งหมด เข้ารับการคัดกรอง วัดอุณหภูมิร่างกาย ซักประวัติ เบื้องต้นพร้อมรับคำแนะนำปฏิบัติตนเองกับสำนักบริการทางการแพทย์ ซึ่งเป็นการคัดกรองเบื้องต้น

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม จนพ้นระยะ 14 วัน จึงสมควรให้ข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 14 คน งดสแกนนิ้ว และให้มาลงลายมือชื่อไป-กลับแทน และให้ทั้ง 14 คน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แยกตนเองออกมาจากบุคคลอื่นในระยะ 2 เมตร และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ส่วนจะให้ข้าราชการทั้ง 14 คนกักตัว หรือไม่ให้เป็นอำนาจของผู้บริหารระดับสูงพิจารณาต่อไป ส่วนข้าราชการของวุฒิสภา 11 คน ได้เข้ามาคัดกรองบ้างแล้ว

นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้ทำการตรวจข้าราชการรัฐสภา จำนวน 25 คนแล้ว แบ่งเป็น สำนักงานเลขาธิการสภาฯ 14 คน สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา 11 คน โดยพบว่าทุกคนไม่มีการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความมั่นใจตนได้สั่งการให้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ติดตามอาการต่อไป

นายนัฑ ผาสุก เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานเบื้องต้น ยังไม่มีข้าราชการวุฒิสภาติดเชื้อโควิด แต่เบื้องต้นให้ข้าราชการทั้ง 25 คน ไปตรวจหาเชื้อแล้ว และเพื่อความสบายใจ ไม่เป็นที่ตื่นตระหนกของเพื่อนข้าราชการ จึงให้ข้าราชการที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้กักตัวที่บ้าน 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการ โดยใช้มาตรการเฝ้าระวังแบบผู้เดียวกับสำนักงานเลขาธิการผู้แทนราษฎร และสำนักการแพทย์ คอยเฝ้าติดตามอาการของแต่ละคนอย่างใกล้ชิด

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า กรณีที่ข้าราชการวุฒิสภา 11 คนอยู่ในกลุ่มเสียงนั้น ได้ยินว่ากักตัวอยู่บ้าน เพื่อเฝ้าระวังดูอาการเท่านั้น ทราบว่ามีหลายคน แต่ยังไม่มีรายงานมีบุคลากรของวุฒิสภาไปเข้ารับการรักษาโรคโควิด-19

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา 25 คน อยู่ในกลุ่มเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ปรากฏว่ามีข้าราชการที่ทำหน้าที่บรรณารักษ์อีก 1 คน ที่ประจำห้องสมุดรัฐสภา ที่ตั้งอยู่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อาคารกษาปณ์ ถ.ประดิพัทธ์ เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากบิดาของข้าราชการคนดังกล่าวทำอาชีพอยู่ในสนามมวย ย่าน จ.นนทบุรี และตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร ทั้งนี้ สำนักงานบริการแพทย์ สภาผู้แทนราษฎร ได้สั่งให้ข้าราชการคนดังกล่าวกักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม อย่างไรก็ตาม ข้าราชการคนดังกล่าวได้ไปตรวจหาเชื้อโควิดแล้ว ปรากฎว่าไม่ติดเชื้อ แต่ยังต้องกักตัวดูอาการที่บ้านต่อไป ทั้งนี้ สภายังเป็นห่วงว่าบุคคลที่ร่วมงาน หรือใช้บริการในห้องสมุด อาจอยู่ในกลุ่มเสี่ยงด้วยหรือไม่ เบื้องต้นอาจสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเพิ่มมาตรการคัดกรองบุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อไป