‘วิษณุ’ ชี้ พรรคการเมือง ต้องประชุมใหญ่ประจำปีตาม ม.43 จะเลื่อนหรืองดไม่ได้ ผิดกม.

‘วิษณุ’ ชี้ พรรคการเมือง ต้องประชุมใหญ่สามัญประจำปี ตาม ม.43 พ.ร.บ.พรรคการเมือง เผย กกต.รับทราบ เลื่อน-งด ไม่ได้

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ ถึงข้อปฏิบัติของหน่วยราชการตามมาตรการการแก้ปัญหา การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ว่า ในรายละเอียดนั้นหน่วยงานจะต้องไปปฏิบัติเอง โดยก.พ.ออกข้อกำหนดเรื่องวิธีการทำงาน นอกสถานที่ราชการปกติ เช่น การทำงานที่บ้าน การใช้วิธีเช่าอาคารแห่งหนึ่งเพื่อจัดที่นั่งระยะห่างให้เจ้าหน้าที่ทำงาน ซึ่งเราเองก็มีประสบการณ์มาแล้วเมื่อครั้งที่เข้าทำเนียบไม่ได้ นอกจากนั้นยังมีมาตรการการประชุมทางไกล เช่น การประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาบางชุดได้เริ่มทำแล้ว ซึ่งเป็นไปตามประกาศคสช. เมื่อปีพ.ศ. 2557 หรือในการประชุมปกติ เช่น บอร์ดต่างๆ สามารถดำเนินการทำได้เลยบางทีก็ทำกันมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ถ้าเป็นการประชุมบริษัทหรือผู้ถือหุ้น ให้รอข้อกำหนดของทางกลต.ก่อน หากจะมีการจัดประชุมก็ต้องมีมาตรการรองรับ

ซึ่งมาตรการรองรับฐานของให้เข้าใจตรงกันว่าหมายถึง 1. ตรวจวัดอุณหภูมิ 2. สวมหน้ากากอนามัย 3. มีเจลให้ล้างมือ4. ต้องมีการจัดที่นั่งหรือที่ยืนให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร หรือมากกว่าก็ยิ่งดี

“ถ้างดได้งด เลื่อนได้ก็เลื่อนแต่ถ้าเลื่อนไม่ได้ ให้จัดขึ้นภายใต้มาตรการรองรับ ทุกคนต้องช่วยกันปรับตัว ประชาชนก็ช่วยกันใช้ระบบออนไลน์ให้มากขึ้น ทุ่นเวลา ทุ่นการเดินทาง โดยหน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานเขตถ้ายังไม่มีก็ต้องเพิ่มในส่วนนี้ขึ้นมา ”

ส่วนการประชุมบางอย่างที่ไม่สามารถจะเลื่อนออกไปได้ เพราะ ไม่มีช่องทางเปิดเอาไว้ มติครม. ก็ไม่สามารถมีช่องได้ เนื่องจากต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ได้แก่ การประชุมสมัยสามัญของพรรคการเมือง ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง ม.43 ที่จะต้องมีการประชุม เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)หรือนายทะเบียน ได้ทราบภายในเดือนเมษายน ของแต่ละปี ดังนั้นจึงต้องจัดให้มีการประชุม ซึ่งได้รายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบไปแล้วเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมาและได้ประสานไปทางคณะกรรมการการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว เพราะหากไม่จัดการประชุมก็จะถือว่าผิดพระราชบัญญัติพรรคการเมือง ถ้าจะประชุมแล้วไม่มีมาตรการรองรับ ก็จะผิดพระราชบัญญัติโรคติดต่อ

สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้นก็ยังคงประชุมไปตามปกติ โดยก่อนการประชุม 1-3วัน เจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าทำความสะอาดห้องประชุมเรียบร้อยแล้ว, รมต. สวมหน้ากากอนามัยเข้าประชุม, จัดที่นั่งให้มีระยะห่างกัน1.5 เมตร

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากสถานการณ์ขยายตัว ความเป็นไปได้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีแบบเวิร์คแอดโฮม มีความเป็นไปได้ในการประชุมครม.ของไทยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า รอนายกรัฐมนตรีสั่งการ หากมีความจำเป็นถึงขนาดนั้นก็อาจจะทำได้ การทำไม่ยากทั้งโดยทฤษฎีและปฏิบัติ หรือโดยข้อกฎหมายอยู่แล้ว ดังนั้นไม่มีปัญหา และครม. ก็อาจจะง่ายกว่าคนอื่น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการด้วยว่า ให้ลดจำนวน และจำกัดเจ้าหน้าที่ผู้เข้าร่วมประชุมครม. เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด และจัดให้นั่งห่างกัน1-1.5 เมตร

เมื่อถามว่า รัฐมนตรี 2 คนที่ อยู่ระหว่างการกักตัว ต้องไปตรวจเชื้อซ้ำอีกรอบก่อนหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ต้องแล้วแต่รัฐมนตรีทั้ง 2 คน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการเสนอให้เลื่อนการเปิดการประชุมสภาสมัยสามัญจาก 22 พฤษภาคมให้ขยับออกไปก่อน นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องนั้น เพราะเรื่องนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับสภา ซึ่งถ้าหากจะไม่ใช่วันที่ 22 พฤษภาคม จะต้องเป็นไปตามมติสภา ที่จะต้องเกิดจากการเรียกประชุมสภาเสียครั้งหนึ่งก่อน แล้วตกลงกันว่าจะเลื่อนสมัยประชุมหรือไม่อย่างไร เพียงแต่ว่าหากยุ่งยากมากเกินไป ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่เรียกประชุมเท่านั้น หรืองดประชุมในสมัยประชุมนั้น เป็นอำนาจของประธานสภาฯ “ส่วนถ้าเปิดประชุมวิสามัญก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะ1.ถ้ารัฐบาลขอเปิดโดยออกพระราชกฤษฎีกา หรือ 2.ประธานรัฐสภา เป็นคนกราบบังคมทูลขอเปิด นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องมีสมาชิกเข้าชื่อ 1ใน 3 ของสมาชิกรัฐสภา 700 กว่าคน”