พท.เปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียน-ติดตามแก้โควิด หมอทศพรนั่ง ปธ. / แจกชุดป้องกันให้ผู้ขับขี่สาธารณะ

เวลา 14.30 น. วันที่ 16 มีนาคม ที่ลานด้านหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคพท. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพท. พร้อมสมาชิกพรรคซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลากรทางการแพทย์ ร่วมกันแถลงข่าวเปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและติดตามการแก้ไขปัญหาการระบาดของ ไวรัสโควิด-19 โดยมีนพ.ทศพร เสรีรักษ์ เป็นประธานศูนย์ฯ ซึ่งในการแถลงข่าวครั้งนี้ได้เชิญผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง แท็กซี่ ในฐานะกลุ่มที่ใกล้ชิดกับประชาชน เข้ามาร่วมรับฟังการแถลงข่าว พร้อมรับแจกหน้ากากผ้า และเจลล้างมือด้วย

โดยนายสมพงษ์ กล่าวว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 กระจายไปในหลายประเทศทุกภูมิภาคของโลก รวมทั้งประเทศไทย โดยองค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้เป็นการแพร่ระบาดใหญ่ระดับโลก ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความตื่นตระหนกของพี่น้องประชาชน มีความไม่มั่นใจในมาตรการต่างๆ พรรคพท.ตระหนักถึงความวิตกกังวลของพี่น้องประชาชน จึงได้เปิด ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและติดตามการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะช่วยรับฟังปัญหาและเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังภาครัฐ รวมถึงการติดตามมาตรการต่างๆ เพื่อให้สถานการณ์อันวิกฤตินี้คลี่คลายไปได้โดยเร็วที่สุด วิกฤตการณ์ครั้งนี้ พวกเราคนไทยทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน ด้วยความสามัคคีและความเอื้ออาทรต่อกัน ที่สำคัญต้องสร้างจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้พี่น้องประชาชนคนไทยปลอดภัย เพื่ออนาคตที่ดีของประเทศ

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคพท.ได้ระดมบุคลากรที่มีความรู้ทางการแพทย์และสาธารณสุข เข้ามาทํางาน จุดประสงค์ในการก่อตั้งศูนย์ฯ ไม่ใช่การทํางาน การเมืองแต่เป็นการจับมือกับพี่น้องประชาชนต่อสู้กับการระบาดของของไวรัสโควิด19 ไปด้วยกัน ขอเรียกร้องในฐานะประชาชนต่อภาครัฐและภาคส่วนต่างๆดังนี้ 1.พรรคเพื่อไทย พร้อมสนับสนุนทุกมาตรการในการป้องกันและควบคุมโรคของภาครัฐที่แสดงออกซึ่งการดูแล ควบคุมและป้องกันโรคให้กับประชาชนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง 2.รัฐต้องเปิดเผยข้อมูลทางระบาดวิทยาที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลให้กับประชาชนให้ทราบ เพื่อการเฝ้าระวังตัวเอง 3.รัฐต้องเพิ่มมาตรการรองรับการเข้าถึงการคัดกรองเชื้อในกลุ่มเสี่ยงโดยปราศจากค่าใช้จ่าย พร้อมยกเลิกมาตรการขู่หรือแจ้งความดําเนินคดีกับประชาชนที่ออกมายืนยันว่าตนเองติดเชื้อ ยกเว้นกรณีตั้งใจก่อกวนซึ่งรัฐสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว 4.สนับสนุนข้อมูลให้ภาคส่วนต่างๆสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ในการป้องกันและควบคุมโรค เช่น กระบวนการในการกําจัดเชื้อแบบพ่นยา เพื่อการนํามาจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ทุกภาคส่วน สามารถร่วมป้องกันและควบคุมโรค ทั้งนี้ จะทําให้มาตราการต่างๆเป็นไปในทิศทางเดียวกัน 5.พรรคพท.ได้ระดมบคุลากรที่มีความรู้ทางการแพทย์และสาธารณสุขของพรรคมา ทํางานภายในศูนย์ดังกล่าว พรรคพร้อมในการให้ความร่วมมือและช่วยเหลือประชาชนเต็มศักยภาพ โดยเบื้องต้น เราได้ดําเนินการเชื่อมโยงฐานข้อมูลความรู้ สถานการณ์โรค และอื่นๆที่จําเป็นมาขยายและส่งผ่านไปยัง เครือข่ายของพรรค มีการเปิดช่องทางรับเรื่องจากประชาชน 6.รัฐต้องแสดงแผนและมาตรการการรองรับการระบาดในระยะที่สาม อันแสดงถึงความ พรอ้มและขีดความสามารถทางการแพทย์และสาธารณสุขในการรองรับผู้ป่วยแม้ประชาชน เชื่อมั่นในความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข แต่จํานวนผู้ป่วยที่เกินขีด ความสามารถอาจทําให้เกิดความสูญเสีย ดังนั้นการทําให้ประชาชนตระหนักรู้ในขีดจํากัดด้าน การแพทย์และสาธารณสุข จะสามารถนําไปสู่ความร่วมมือในการป้องกันตัวเองจากการติดต่อของ โรค และ 7.พรรคพท.ขอเรียกร้องและเชิญชวนให้ทุกองค์กร สถาบัน ที่มีศักยภาพมี ทรัพยากร ได้ใช้ความรู้และข้อมูลในการป้องกันการระบาดของโรคที่ภาครัฐแนะนํามา ดําเนินการในพื้นที่สาธารณะใกล้พื้นที่ตั้งของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นในแง่พื้นที่สาธารณะ ขนส่ง สาธารณะ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เริ่มดําเนินการใน ขนส่งสาธารณะที่ผ่านไปมาบริเวณของพรรคแล้ว จึงขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนดําเนินการในพื้นที่ใกล้เคียงกับสถานที่ของตัวเอง ร่วมด้วยช่วยไทย ป้องกันภัยโควิด-19

นพ.ทศพรกล่าวว่า นับแต่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด พรรคพท.ได้ติดตามดูแลประชาชนมาโดยตลอด ด้วยความสามารถบุคคลากรทางการแพทย์ไทยสามารถต่อสู้ยันสถานการณ์แพร่ระบาดในระยะ1-2 แต่เมื่อถึงในสัปดาห์นี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 คน ประกอบกับมาตรการของรัฐ ที่ไม่กักตัวแรงงานเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับประเทศ รวมทั้งมาตรการอื่นที่กลับไปกลับมา ด้วยความเป็นห่วงประชาชน พรรคพท.จึงได้ตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้นมา ในอดีตเราเคยประสบวิกฤตครั้งใหญ่ อาทิ โรคซาร์ส หวัดนก ไข้หวัดใหญ่ ด้วยความสามารถบุคคลากรการแพทย์ก็ได้กอดคอร่วมฟันฝ่ามาได้ เราไม่อยากเห็นภาพคนป่วยนอนเต็มโรงพยาบาล ไม่อยากเห็นภาพหมอที่ต้องเลือกว่าจะใช้เครื่องช่วยหายใจช่วยใครดี ไม่อยากเห็นกทม.ต้องปิดเมือง ไม่อยากเห็นคนตายเพิ่มมากขึ้น เราจึงได้ตั้งศูนย์นี้ขึ้นมาเพื่อระดมพลังความคิด พลังกาย พลังใจเพื่อร่วมฟันฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน