เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคพท. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพท. และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคพท. แถลงถึงกรณีการเตรียมเสนอยื่นญัตติเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อถกเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

โดยนายสุทิน กล่าวว่า หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมดจะได้มีการพูดคุยกันในวันนี้ (16 มีนาคม) ว่าจะดำเนินการกันอย่างไรในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ภายในสัปดาห์นี้จะได้รายชื่อครบ เพื่อวันศุกร์ที่จะถึงนี้จะได้นำรายชื่อมาดู เพื่อที่จะขอเสียงจากทางรัฐบาลร่วมสนับสนุนทั้งนี้ เราอยากให้รัฐบาลได้คิดว่า ปัญหาทั้งหมดทั้งโควิด ทั้งภัยแล้ง ทั้งรัฐธรรมนูญ ไปจนถึงการรวมตัวของนิสิต นักศึกษา เราประเมินแล้วว่ารัฐบาลรับมือไม่ได้ เราจึงต้องช่วยกัน ที่ผ่านมา เราคิดว่ารัฐบาลจะเปิดประชุมเอง แต่เมื่อรัฐบาลไม่มีปฏิกริยา เราจึงดำเนินการ วันนี้เสียงของเราไม่ถึง จึงขอความร่วมมือจากส.ส.ฟากรัฐบาล และส.ว. หรือเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้วรัฐบาลจะขอเปิดเองเลย เราก็ยินดี อย่างไรก็ตาม การเปิดประชุมสมัยวิสามัญนี้ไม่ใช่การหลอกด่ารัฐบาล เราอยากให้รัฐบาลมองในแง่บวก มองว่าเป็นโอกาสที่รัฐบาลจะได้ชี้แจง ไม่ใช่ให้คนมารุมด่ารัฐบาลอย่างที่เป็นอยู่นี้

ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวว่า ลำดับขั้นตอนของการาขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญนั้น หากรับบาลจขอเปิดเองตามมารา 165 สามารถดำเนินการได้เลย แต่ถ้าไม่ใช่ช่องทางนี้ ใช้ มาตรา 123 ขอเปิดประชุมโดยการเข้าชื่อกัน 1 ใน 3 ของสาชิกทั้ง 2 สภา ทั้งนี้ เราอยากใช้ระบบรัฐสภาในการแก้ปัญหา ไม่อยากให้มีการใช้อำนาจอื่นเข้ามาใช้ในการแก้ปัญหา เพราะเรื่องโควิด-19 กระทบในวงกว้าง ซึ่งเราใกล้เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์แล้ว การเดินทางกลับสู่ชบทคือการนำเชื้อกระจายไปสู่ชนบท

เมื่อถามว่า มั่นใจอย่างไรว่าฝ่ายค้านจะได้รับเสียยงสนับสนุนจากฝ่ายรัฐบาล และส.ว. นายสุทิน กล่าวว่า เราไม่มั่นใจหรอก ขณะนี้เพียงอยู่ในขั้นตอนเชิญชวน ถ้าเห็นตรงกันว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา ก็ขอให้มาร่วมกัน เราขอวิงวอน ทั้งนี้ หากไม่สามารถเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้นั้น เรามีแผน 2 ที่จะดำเนินการต่อ โดยการจะเสนอพรรคร่วมคือ ถ้าเป็นสภาไม่ได้ จะขอเปิดสัมนาข้างนอก เพื่อระดมความคิดเห็นต่อไป ซึ่งเรามีรูปแบบที่เราเซฟได้ ถามว่าเรากลัวไหม เรากลัว แต่ถ้ากลัวจนไม่กล้ามาพูดคุยกันก็คงไม่มีทางแก้ปัญหา

ขณะที่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อาจจะมีการสั่งงดการประชุมกรรมาธิการ (กมธ.) ก็ขอให้สื่อจับตาดู เพราะการงดประชุมทำให้โอกาสในการทำงานของกมธ.ที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาของประเทศ