เผยแพร่ |
---|
สนธิรัตน์ชี้ ปมกักตุน ‘หน้ากากอนามัย’ เป็นเรื่องส่วนบุคคล เชื่อพรรคร่วม รบ.ยังเหนียวแน่น
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีมีคนแอบอ้างว่าเป็นคนสนิท ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปกักตุนหน้ากากอนามัย ว่าต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พูดไปแล้วว่าต้องไปตรวจสอบว่าใครถูกหรือผิด โดยไม่มีละเว้น แต่ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะกระทบกับพรรค พปชร.หรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล อย่าไปยุ่งกับพรรค เพราะพรรคไม่ทราบเรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องของตัวบุคคลที่ไปอ้างถึงความเกี่ยวข้องกับบุคคลต่างๆ ซึ่งต้องไปพิสูจน์ตามกระบวนการกฎหมายต่อไป
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะมีการพูดคุยกันในที่ประชุมพรรค พปชร.หรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า คงจะมีการสอบถามกันบ้าง แต่ ร.อ.ธรรมนัสได้มีการชี้แจงไปบ้างแล้ว ซึ่งเราต้องรอให้ข้อเท็จจริงปรากฏว่าเป็นอย่างไรวันนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอผลการตรวจสอบก่อน
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะทำให้มาถึงเรื่องการปรับ ครม.หรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังมีความเหนียวแน่น ยังร่วมกันทำงาน ในภาวะแบบนี้ต้องผนึกกำลังกัน ทั้งโลกไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยที่ต้องประสบภาวะความยากลำบาก โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลเองอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไร
เมื่อถามย้ำว่า พรรค ปชป.เสนอให้มีการถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพรรค ปชป. แต่โดยหลักการที่พูดคุยเบื้องต้น เรายังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันอยู่
เมื่อถามว่า จะมีปัญหาเรื่องการทำงานร่วมกันหรือไม่ เพราะใช้คำรุนแรงถึงขั้นว่าจะไม่พายเรือให้โจรนั่ง นายสนธิรัตน์กล่าวว่า อย่าไปยึดอะไรมาก เราค่อยๆ ดูสถานการณ์กันไป คิดว่าเรื่องนี้เป็นการแสดงความรู้สึกของบางส่วนเท่านั้น เพราะข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ ต้องรอผลการตรวจสอบก่อน
เมื่อถามถึงกระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัสจะยื่นหนังสือลาออกจากรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้จริงๆ
เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวกระเทือนภาพลักษณ์โดยรวมของรัฐบาลหรือไม่ หาก ร.อ.ธรรมนัสยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกประเด็น เพราะต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ตนไม่สามารถไปตัดสินอะไรได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ
เมื่อถามถึงกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรค พปชร.ออกมาเรียกร้องให้ ร.อ.ธรรมนัสรับผิดชอบด้วยการลาออกจากรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์กล่าวว่า อยู่ด้วยกันก็ต้องค่อยๆ คุยกัน เรื่องในพรรคเวลามีความคิดเห็นที่แตกต่างกันจะต้องคุยกันก่อน ตนพูดเสมอว่าความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันเราต้องหารือกันก่อน เวลามีอะไรตนอยากให้คุยกันในบ้านก่อน เพราะสามารถทำให้พูดคุยกันได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นนายกรัฐมนตรียังไม่ได้ส่งสัญญาณปรับ ครม.