ปชป.ซัดกันนัว! จี้ถอนตัวร่วมรบ. ผิดเงื่อนไขทุจริตหน้ากาก ไม่ขอพายเรือให้โจรนั่ง

วันที่ 9 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า หลังเกิดข่าวกักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น เผยเเพร่ตามโลกออนไลน์ ว่าอาจเกี่ยวพันกับคณะทำงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ก่อนร.อ.ธรรมนัส ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ล่าสุดปรากฏว่า ในกลุ่มไลน์ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เกิดการถกเถียงกรณีดังกล่าวอย่างกว้างขวาง อาทิ นายเจริญ คันธวงศ์ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ได้เขียนข้อความเสนอให้พรรคไปเตือนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหมว่า ให้ปรับร.อ.ธรรมนัส ออกจากการเป็นรัฐมนตรี เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องรับไม่ได้ ไม่เช่นนั้นพรรคประชาธิปัตย์ก็ควรถอนตัวจากรัฐบาล ทั้งยังเห็นว่าหากนายกฯ ไม่ทำอะไร สถานการณ์อาจเหมือนกับช่วงปลายรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ

อย่างไรก็ตาม ปมร้อนนี้ภายในพรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นแตกออกเป็นสองขั้ว ทั้งสนับสนุนและคัดค้าน คล้ายกับช่วงก่อนหน้านี้ที่เกิดการถกเถียงเรื่องการโหวตไว้วางใจร.อ.ธรรมนัส กระทั่งมาถึงปัญหากักตุนหน้ากากอนามัย ซึ่งถือเป็นการทุจริตคอร์รัปชั่น 1 ในเงื่อนไขข้อ 3 ในการเข้าร่วมรัฐบาล ที่ว่าหากรัฐบาลบริหารราชการแล้วมีการทุจริตคอร์รัปชั่น พรรคประชาธิปัตย์ก็จะทบทวนท่าที ดังนั้น หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ถอนตัวออกมา จะเป็นการผิดต่ออุดมการณ์พรรค แต่ขณะเดียวกันยังคงมีส.ส.บางส่วนที่อยากให้อยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป โดยเป็นส.ส.ในส่วนที่ต้องการเป็นรัฐมนตรี

นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นในกลุ่มไลน์ว่า “ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วครับ ที่เราคงจะต้องตัดสินใจไม่พายเรือให้โจรนั่งแล้วครับ”

ทั้งนี้ ในส่วนของหัวหน้าพรรคและผู้บริหารพรรคยังไม่มีการตอบข้อความหรือแสดงท่าทีใดๆ ออกมา และหากรัฐบาลยอมปรับร.อ.ธรรมนัสออกจากคณะรัฐมนตรี ทางพรรคอาจต้องใช้วิธีโหวตว่าควรจะอยู่ต่อ หรือถอนตัวออกมา