นายกฯแจงมาตรการคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า ส่วนแจกเงิน 2,000 ไว้ว่ากันทีหลัง

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่อาคารบี ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2563

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มาตรการที่ออกมาในขณะนี้ ทุกเรื่องตนนำมาคิดใคร่ครวญทั้งหมด แม้จะมีการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ไปแล้วก็ตาม ทุกอย่างต้องเข้าสู่การคัดกรองของคณะรัฐมนตรีชุดใหญ่อีกครั้ง ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะประกาศใช้ได้เลย หลายอย่างอาจจะยังไม่ออกมาใช้ก็ได้ แต่ยืนยันว่าทำอย่างไรประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19 และผลกระทบด้านอื่นๆ จะได้รับการช่วยเหลือ

“วันนี้ผมได้หารือกับกระทรวงพลังงานแล้ว เรื่องการจ่ายเงินคนละ 1,000 บาท จำนวน 2 เดือน ผมยังไม่จ่าย เอาไว้อีกระยะหนึ่ง ค่อยมาดู แต่วันนี้ได้พิจารณาจะคืนเงินให้ประชาชน เช่น ในเรื่องค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งจะมีการประกันอยู่มิเตอร์ละประมาณ 3,000 บาท รัฐจะคืนตรงนี้ให้ ซึ่งถือว่ามากกว่า 2,000 บาท จะได้ทุกบ้าน ยกเว้น ผู้ประกอบการขนาดใหญ่จะไม่ให้ คนที่จะได้คือผู้ที่มีบ้านเป็นของตัวเอง อย่างน้อยก็ประทังไปได้ 3,000 บาท ส่วนเงิน 2,000 บาท เอาไว้ว่ากันภายหลัง ส่วนจะได้หรือไม่ได้ยังไม่รู้ ต้องขอไปดูเม็ดเงินก่อน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้หารือกับกระทรวงพลังงานในเรื่องของค่าไฟฟ้า ค่าประปา พิจารณาดูว่าอะไรจะลดราคาได้บ้าง รวทั้งค่าพลังงาน ค่าน้ำมัน แก๊ส จึงขอร้องว่าอย่าเพิ่งมาตีกันว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย

เมื่อถามว่าเรื่องมาตรการช่วยเหลือ 2,000 บาท จะนำมาพิจารณาหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรื่องมาตรการช่วยเหลือคนละ 2,000 บาท เป็นเวลา 2 เดือน โดยเดือนละ 1,000 บาทนั้น ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดูแลผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 จะยังไม่เข้า ครม.ทุกอย่างเป็นแพคเกจมีทั้งที่เข้าเข้าแลกยังไม่เอาเข้าพิจารณาตอนสั่งไปแล้วว่าเรื่องเงิน 2,000 บาทยังไม่ให้นำเข้าที่ประชุม ครม. จะมีแค่มาตรการช่วยเหลือคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าประจำบ้านหลังละ 3,000 บาทที่จะนำเข้า ครม.ในวันที่ 10 มีนาคม ก่อน ได้ทั่วทุกคน ซึ่งจะมากจะน้อยก็ขอให้รับไปก่อน ถ้าให้มากเกินไปรัฐบาลก็เป็นปัญหาอีก รายได้รัฐลดลง การเก็บภาษีได้น้อยลงก็ยอมรับ แต่ก็ต้องหาทางอื่นในวันหน้าว่าจะทำอย่างไร เรื่องเงิน 2,000 บาทไว้ว่ากันอีกที เพราะเดี๋ยวจะว่าทำเรื่องการเมืองกันอีก คงไม่ใช่หรอก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาไม่ใช่ว่าจะไม่ให้ ต้องให้กระทรวงการคลังไปทำบัญชีทุกอย่างให้พร้อมก่อน วันนี้เอาอย่างนี้ไปก่อน

“นายกฯ พูดแต่หลักการรับได้กันไหม ใช้ปัญญาหรือเปล่า โดยหลังจากนี้ก็ต้องไปดูว่าข้าราชการทำได้แค่ไหนอย่างไร เพราะต้องใช้กฎหมายทุกตัว ไม่ใช่นายกฯสั่งส่งเดช มันก็ทำไม่ได้ ทุกเรื่องก่อนที่จะเข้า ครม. ตน สำนักงบประมาณและสภาพัฒน์ฯ เลขาธิการ ครม.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายจะคัดกรองเอกสารก่อนเข้า ครม.ทุกครั้ง อันไหนที่ไม่ได้ดึงออกก่อนทำอย่างนี้มา 5-6 ปีแล้ว ให้ไปทำมาใหม่ เพราะถ้ารีบร้อนเกินไปก็จะเกิดปัญหาแต่มาตรการหลักๆ ก็ต้องออกไปก่อน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว