บิ๊กตู่ ชี้ อะไรที่ช่วยศก.เดินหน้า รบ.ต้องทำ แม้จะไม่ร่ำรวย แต่การแจกเงิน ถึงมือคนเร็วที่สุด

“บิ๊กตู่” ย้ำรบ.เข้มรับมือ “ผีน้อย” ไม่ให้กระทบความเชื่อมั่น วอนคนกลับจากประเทศเสี่ยงกักตัวครบ 14 วัน แจง รัฐไม่ได้รวย แจกเงินเป็นมาตรการช่วยให้คนมีเงิน ช่วยศก.เดินหน้า

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 6 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ออกรายการ Government Weekly EP.30 ในช่วง PM Talk ผ่านเฟซบุ๊ก “ไทยคู่ฟ้า” ถึงมาตรการรับมือและแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 ว่า วันนี้ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า รัฐบาลมีมาตรการรับมือโควิด-19 ที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดหลายประเทศทั่วโลก โดยมีมาตรการตั้งแต่การคัดกรอง ตรวจสอบ และเข้ารักษาที่มีมาตรฐานระดับสูง ซึ่งทั้งสถานพยาบาลและบุคลากรของเราถือว่า มีความพร้อมจนสามารถ ควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการแพร่กระจายในประเทศของเราเอง โดยตรวจสอบตั้งแต่ต้นทาง สนามบินท่าเรือ ชายแดนและด่านตรวจจุดสกัดต่างๆ ทุกด่าน โดยความร่วมมือของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนการรองรับแรงงานไทยที่กลับจากต่างประเทศ ที่ผ่านมามีการเตรียม พร้อมมาโดยตลอด โดยคัดกรองที่สนามบิน หรือท่าเรือแรกเข้า โดยการใช้กล้องและหน่วยแพทย์ทั้งในส่วนของทหารและกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งตรวจสอบพบผู้ที่เป็นไข้ก็ต้องคัดแยกออกมา เมื่อมีแนวโน้มเป็นโควิด-19 ก็ต้องส่งต่อสถานควบคุมโรค อย่างไรก็ตาม หลายคนห่วงกังวลในเรื่องแรงงานต่างประเทศ ซึ่งจริงๆ แล้วมีแรงงานไปทำงานหลายประเทศด้วยกัน แต่ขณะนี้ที่เป็นปัญหามากคือ ในส่วนที่กลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดในความคิดของตน รัฐบาลและทุกคน ต้องมองคนเหล่านี้เป็นคนไทย จึงมีสิทธิได้รับการดูแล รักษา และป้องกันต่างๆ เช่นเดียวกับคนไทยอื่นๆ ไม่ว่าจะทำถูกหรือผิดกฎหมาย ซึ่งเกาหลีใต้ได้อนุญาตให้ผีน้อยกลับประเทศได้ประมาณ 5,000 คน ซึ่งจะทยอยเข้ามา ดังนั้น ต้องมีมาตรการรองรับให้ได้ว่า ทำอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของเราที่ทำงานได้ดีตลอดมาตั้งแต่ในช่วงแรก

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ได้ประสานหารือกับต้นทางคือเกาหลีใต้ ให้มีมาตรการคัดกรองและกักตัว 14 วันก่อนออกเดินทาง รวมทั้งทุกสายการบินมีการตรวจสอบอยู่แล้วก่อนขึ้นเครื่อง และในส่วนปลายทางของเราจะทำอย่างไรกับคนที่จะเข้ามาใหม่ ซึ่งหากมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จะมี 2 มาตรการเสริม ได้แก่ 1.การให้อยู่ในสถานการณ์การหรือสถานควบคุมของกระทรวงสาธารณสุข 2.คนที่ไม่มีไข้กลับมาจากประเทศต้นทางที่มีการแพร่ระบาดหาพื้นที่ในการควบคุมในภูมิลำเนา โดยเฉพาะคนที่มาจากเมืองแทกู และคย็องซัง ต้องถูกกับตัวในพื้นที่ควบคุมโรค 14 วันทันที เมื่อผ่าน 14 วันไปแล้วก็ต้องระมัดระวังตัวเอง

“วันนี้หลายคนมีข่าวมาเรื่อยๆว่า บางคนยังไม่ครบ 14 วัน แต่กลับออกไปนู่นไปนี่ เป็นสิ่งที่อยากขอร้องประชาชน เพราะตัวเองรู้ตัวเองอยู่แล้ว ไปไหนมาก็ต้องรู้ และตัวเองก็ต้องรักตัวเองอยู่แล้ว ผมเข้าใจ แต่ต้องรักคนอื่นด้วย ต้องไม่เข้าไปในชุมชนหรืออะไรต่างๆ แม้กระทั่งครอบครัวของตัวเองก็มีโอกาส คนไปต่างประเทศมาก็ไม่ได้ไปทั้งครอบครัว พอกลับมาแล้วก็อยู่ในบ้าน อย่าลืมว่า คนในบ้านก็มีความเสี่ยงสูง ต้องเข้ามาพบแพทย์เมื่อไปในประเทศที่มีปัญหา ย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการคัดกรองมากที่สุด พร้อมการเพิ่มเครื่องไม้เครื่องมือและเจ้าหน้าที่ลงไป ทุกคนต้องมั่นใจในมาตรการของเรา เพราะดูตัวเลขที่เราตรวจสอบพบทั้งในส่วนการแพร่กระจายและผู้เสียชีวิตยังอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้อยู่ ก็ต้องไปหาสาเหตุว่าเสียชีวิตยังไง หลายคนก็เป็นโรคเดิมอยู่แล้ว จึงอย่าไปพูดกันจนเสียหายไปหมดและอย่าคิดไปเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ ทุกคนต้องเชื่อมั่นในบุคลากรและระบบสาธารณสุขของเราเองที่อยู่ในอันดับ 6 ของโลกในการป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งเรามีชื่อเสียงและต้องรักษาชื่อเสียงไว้ให้ได้ด้วยการร่วมมือกัน ซึ่งนายกฯ ก็มีนโยบายและสั่งการลงไป ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขก็ไปดำเนินการ ดังนั้น เราต้องเชื่อมั่น หลายอย่างตนก็ต้องตัดสินใจให้ สำหรับการตั้งศูนย์ข้อมูลแก้ปัญหาที่ทำเนียบรัฐบาล จะเป็นการหารือในหลายๆเรื่องและสร้างความเข้าใจ วันนี้ไม่ได้พูดเฉพาะเรื่องโรค แต่รวมถึงมาตรการบรรเทาผลกระทบและการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งมาตรการหลายอย่าง ที่ต้องลงให้ถึงเป้าหมาย โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ส่วนสินเกษตรกร วันนี้นอกจากโควิด-19 เราเจอปัญหาภัยแล้งด้วย รวมทั้งเศรษฐกิจที่มีปัญหาอยู่แล้วเดิม ดังนั้น รัฐบาลต้องหาวิธีการที่เหมาะสม ให้ตรงทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งนายกฯ จะพูดคุยกับแต่ละกลุ่มว่าต้องตามอะไร แต่ต้องดูงบประมาณและกฎหมายของเราด้วย

นายกฯ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม อะไรสามารถดำเนินการได้รัฐบาลจะเร่งดำเนินการ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ อาจเดินช้าลง แต่ยังไงต้องเดิน ไม่เช่นนั้น ถ้าการผลิตเสียหาย ประชาชนก็เดือดร้อนและรายได้ประเทศลดลง วันนี้มีแต่รายจ่ายรายรับน้อยลง เหลือแต่การเก็บภาษีที่เราจะมีมาตรการทางภาษีช่วยประชาชนในส่วนของมนุษย์เงินเดือน โดยจะต้องมีการหารือกับกระทรวงการคลังและครม.เศรษฐกิจ เพื่อหามาตรการออกมาได้ตรงกับที่ประชาชนต้องการ โดยสิ่งที่ตนได้เน้นไป ในส่วนของมาตรการจะมี 2 ส่วน ได้แก่ มาตรการการเงินการคลังต่างๆ และการช่วยเหลือประชาชนที่จะต้องถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนมีเงินใช้บ้าง แต่เราไม่ได้ร่ำรวยเหมือนหลายประเทศที่แจกกันเยอะ จะเห็นว่า หลายประเทศให้เงินกันเยอะมาก ซึ่งเราก็จะมีปัญหา จึงต้องพูดกันต่อว่า จะหาเงินจากตรงไหน หากดูแลอย่างเดียวแล้วจะเอาเงินมาจากที่ไหน นอกจากนี้ ต้องไปดูในส่วนของขนส่งทั้งรถจักรยานยนต์รับจ้าง รถแท็กซี่ต่างๆ ที่เดือดร้อนเช่นเดียวกัน จึงต้องไปดูว่าจะทำอย่างไรช่วยด้านพลังงานได้หรือไม่ ทุกอย่างต้องคิดอย่างละเอียดและเห็นชอบร่วมกันผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมครม.

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันส่วนราชการได้ให้ระงับการเดินทางทั้งที่ไปประชุมและศึกษาดูงานในประเทศที่มีการระบาด ส่วนคนที่กลับมาแล้วก็ให้หยุดสังเกตอาการ 14 วัน และที่ผ่านมาก็มีรัฐมนตรีไปด้วย 3 คน ก็ไม่ได้มาทำงานให้ทำงานที่บ้านไม่ถือเป็นวันลาและได้ผ่าน 14 วัน เรียบร้อยแล้ว เพิ่งจะกลับมาทำงาน นอกจากนี้ ขอความร่วมมือเอกชนให้หลีกเลี่ยง การจัดกิจกรรมที่ประชาชนต้องมารวมตัวกันจำนวนมาก เช่น การจัดกีฬา คอนเสิร์ต การประชุมและ มหรสพต่างๆ ที่ต้องให้ระงับไปก่อน แต่บางส่วนที่มีปัญหาเช่นการซื้อทัวร์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ถูกยึดเงินตรงนี้จะทำอย่างไรกำลังหาทางออกอยู่

นายกฯ กล่าวว่า สำหรับหน้ากากอนามัยวันนี้ที่มีปัญหามาก เนื่องจากเราผลิตได้จำนวนจำกัดวันละ 1 ล้านกว่าชิ้นและได้ให้เร่งเต็มเต็มที่ 11 โรงงาน แต่วัสดุการผลิตหน้ากากมาจากต่างประเทศที่ตอนนี้ลดลงไปเกินครึ่ง จึงเป็นปัญหา แต่วันนี้ยอดรวมกำลังเร่งผลิตให้ได้ 35-38 ล้าน พร้อมสั่งการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ให้ไปดูในเรื่องการผลิต ซึ่งขณะนี้ได้มีเฝ้าโรงงานเพื่อเก็บข้อมูลว่าผลิตได้จำนวนเท่าไหร่ในแต่ละวันมีบัญชีควบคุมหรือไม่ และตรวจสอบแผนการจำหน่าย พร้อมตรวจสอบต่อว่าถูกกระจายไปที่ไหนบ้าง ซึ่งวันนี้แบ่งสัดส่วนไว้ 2 ส่วนคือ ให้กระทรวงสาธารณสุขเพื่อไปดูแลบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนที่เหลือก็ให้เข้าสู่ช่องทางการจำหน่ายให้ถึงประชาชน ขณะเดียวกันตนได้ให้คนไปสำรวจในทุกพื้นที่ ปรากฏว่าไม่พอจริงๆ ไม่พอจากต้นทางมา ซึ่งในส่วนที่กักตุนก็อีกเรื่องที่กักตุนลักลอบไปขายต่างประเทศ ต้องลงโทษเด็ดขาด เพราะพวกนี้ถือว่าเอาเปรียบประชาชนและทำให้ประเทศชาติที่กำลังมีปัญหาอยู่มีปัญหามากขึ้น แบบนี้ไม่ได้ ต้องช่วยกันเสียสละบ้าง อีกอันคือที่มีการลักลอบ หรือนำเข้าถูกกฎหมาย หน้ากากจากต่างประเทศ ซึ่งจะเห็นว่าราคาแพงมาก ในส่วนของหน้ากากอนามัยก็ตรวจทั้งหมดว่าหายไปไหน ขณะนี้มีการตรวจสอบย้อนกลับอยู่มีการขอดูบัญชี ก็ให้ไปตรวจสอบตามร้านค้าว่าสั่งจากตัวแทนที่ไหนอย่างไร รวมถึงราคาควรจะเป็นอย่างไร ส่วนหน้ากากอนามัยจากต่างประเทศขณะนี้ราคาสูงมาก แต่ของไทยควบคุมราคาที่ 2.50 บาท และคำแนะนำจากแพทย์ที่ดีที่สุดคือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ก็ขอให้ฟังไม่เช่นนั้นจะตื่นตระหนกกันไปหมด