‘เทพไท’ ค้านเปิดเวที น.ศ.ร่วมแก้ รธน.ไม่ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม แค่ซื้อเวลา ไม่หวังผลสำเร็จ

“เทพไท” ค้านเปิดเวทีให้นักศึกษาร่วมแก้ รธน.ไม่ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม อัด กมธ.ศึกษาแก้ รธน. แค่ซื้อเวลาไม่หวังผลสำเร็จ แนะเสนอ “ชวน” ตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ นำ รธน. 40-50 มาปรับปรุง เป็นรธน.ฉบับใหม่ เชื่อใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน

เมื่อวันที่ 5 มี.ค.นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 กล่าวถึงกรณีการที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้มอบให้นายวัฒนา เมืองสุข ประธานคณะอนุกรรมาธิการประชาสัมพันธ์ และรับฟังความเห็นของประชาชน ไปประสานงานให้ตัวแทนนิสิตนักศึกษา เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ว่า ส่วนตัวในฐานะกรรมาธิการวิสามัญคนหนึ่ง เห็นว่าได้มีการเปิดกว้างให้ทุกกลุ่มแสดงความเห็นต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้เป็นเรื่องที่ดี แต่ผลในทางปฏิบัติจะเป็นจริงหรือไม่ เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายกำลังเป็นห่วง เพราะการทำงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯมีความล่าช้า มีปัญหาในการขับเคลื่อนการแก้ไขอย่างเห็นได้ชัด เหมือนการซื้อเวลา และไม่ได้หวังผลในความสำเร็จเท่าที่ควร หากจะเชิญกลุ่มนักศึกษาเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น จะต้องพิจารณาใน 3 ประเด็นคือ 1.จะเชิญตัวแทนนักศึกษากลุ่มไหนเข้าร่วม เพราะการเคลื่อนไหวของนิสิต นักศึกษาในขณะนี้ไม่มีองค์กรการนำที่ชัดเจน แต่ละสถาบันต่างก็เคลื่อนไหวอย่างอิสระ การมีตัวแทนเข้าร่วมจะเป็นที่ยอมรับของกลุ่มนักศึกษาโดยทั่วไปหรือไม่ 2.ประเด็นข้อเสนอของนักศึกษาได้ตกผลึกในกลุ่มนักศึกษาโดยทั่วไปหรือไม่ เพราะยังมีการเคลื่อนไหวในข้อเสนอที่หลากหลาย เช่น ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ, ต้องยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยมี ส.ส.ร.ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่, นายกรัฐมนตรีต้องลาออกก่อน เพื่อเปิดทางให้มีรัฐบาลใหม่ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นต้น และ 3.จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในทันทีเป็นการเร่งด่วน

“การทำงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ มีหน้าที่แค่การศึกษาปัญหาและหลักเกณฑ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น ยังต้องใช้ระยะเวลาอีกยาวนาน ดังนั้น เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นจริงในทางปฎิบัติ และสำเร็จได้ในเวลาอันรวดเร็ว จึงขอเสนอให้ประธานรัฐสภาในฐานะประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่นำรัฐธรรมนูญปี 2540 และปี 2550 มาศึกษาปรับปรุงเป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก่อนเสนอทำประชามติจากประชาชนทั่วประเทศ ถ้าผ่านประชามติ ก็เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญปี 2560” นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนการนำเอารัฐธรรมนูญปี 2540 มาเป็นต้นแบบ ก็เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่ยกร่างมาจาก ส.ส.ร.มีความยึดโยงกับประชาชน ส่วนรัฐธรรมนูญปี 2550 เป็นรัฐธรรมนูญที่ได้อุดช่องว่างหรือปรับปรุงประเด็นปัญหาของรัฐธรรมนูญปี 2540 มาแล้ว และเป็นรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติของประชาชนฉบับแรกอีกด้วย เพราะฉะนั้นจึงเห็นควรที่จะนำรัฐธรรมนูญปี 2540 และรัฐธรรมนูญปี 2550 นำมาปรับปรุงแก้ไขเป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น จึงเป็นการตอบโจทย์ทางการเมืองของทุกฝ่ายอย่างแท้จริง