วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีนิสิต นักศึกษา มหาวิทยาลัยต่างๆ และประชาชนทั่วไป มาร่วมกิจกรรมแฟลชม็อบ #คืนสู่เหย้าไม่เอาไอโอชา บริเวณหน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน มากกว่า 1,000 คน

โดยเมื่อเวลา 17.00 น. กลุ่มนิสิต นักศึกษา จากหลายสถาบัน รวมถึงประชาชนทั่วไปเข้ามายังพื้นที่จัดชุมนุม ทำให้บรรยากาศเริ่มคึกคัก แต่ละคนต่างทยอยเดินทางมายังหน้าหอประชุมใหญ่ ม.เกษตรฯ นับร้อยคน โดยภายในงานมีการแจกหน้ากากอนามัยให้กับผู้มาร่วมกิจกรรม และมีแอลกฮอล์ใช้สำหรับทำความสะอาดด้วย

ทั้งนี้ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(191) ตำรวจบางเขน และอื่นๆ ทั้งในและนอกเครื่องแบบกระจายกำลังดูแลความเรียบร้อยจำนวนหนึ่ง

จากนั้นเวลา 18.35 น.ระหว่างที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กำลังปราศรัยอยู่นั้น ปรากฎว่ามีชายอายุประมาณ 30 – 35 ปี สวมเสื้อสีเหลือง-แดง ตรามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้ามาประชิดตัวนายพริษฐ์ พร้อมทั้งพูดคุยอะไรบางอย่างกับนายพริษฐ์ ก่อนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และตำรวจนอกเครื่องแบบ จะเข้ามาพาตัวออกไปบริเวณด้านหลังเวทีเพื่อทำการพูดคุย

ระหว่างนั้นมวลชนที่กำลังฟังการปราศรัยต่างตะโกนส่งเสียงโห่ด้วยความไม่พอใจ และบางส่วนพยายามเข้าประชิดตัวผู้ก่อกวน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างเรียบร้อย ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมในช่วงหัวค่ำมีการปราศรัย สลับกับการแสดงดนตรี โดยมีนิสิต นักศึกษา และประชาชน เข้าร่วมกว่า 1,000 คน

ต่อจากนั้น ในเวลา 19.25 น. นายธรรศ หรือ แบม นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 ปราศรัยตอนหนึ่งว่า การเคลื่อนไหวของนักศึกษา และประชาชนครั้งนี้ จะเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่กว่าเหตุการณ์ 6 ตุลา 14 ตุลา และพฤษภาทมิฬ เป็นยุคที่เชื่อว่าประชาธิปไตยจะเบ่งบานอีกครั้ง ตนขอปลุกมวลชนที่ยังหลับใหลในทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก หน้าจอคอมพิวเตอร์ ให้ออกมากันได้แล้ว ถ้าเรารวมตัวกันได้พันคน เราก็ได้แค่ชุมนุมอยู่ในมหาวิทยาลัย

“ถ้าเรารวมตัวได้กว่าหมื่นคน เราอาจจะลงถนนไปราชดำเนิน ถ้าเรารวมตัวได้มากกว่าแสนคน เราอาจดาวกระจายไปยังหน่วยงานราชการที่เผด็จการส่งคนมาบริหารอยู่ ถ้าเรารวมตัวได้กว่าล้านคนเราอาจสามารถหยุดธุรกิจกลุ่มทุนที่เผด็จการฝากเอาไว้ และถ้าเรารวมตัวได้กว่า 10 ล้านคน เชื่อว่าเราจะโค่นล้มระบอบเผด็จการได้แบบถอนรากถอนโคน” นายธรรศ กล่าว

กระทั่งเวลา 20.15 น. ภายหลังจบปราศรัยของตัวแทนนิสิตนักศึกษาจากหลายสถาบัน อาทิ มหาวิทยาธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้มีการเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือ เพื่อเป็นการส่องแสงสว่างขับไล่เผด็จการ

จากนั้นทั้งหมดได้ร่วมกันร้องเพลง ‘เพื่อมวลชน’ กับ ‘เพลงทุ่งฝันวันใหม่’ ก่อนที่ผู้ร่วมกิจกรรมจะตะโกนเสียงดังร่วมกันว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ”, “นายกฯ ออกไป”, “รัฐบาลประยุทธ์ออกไป” พร้อมกล่าวว่า “เราจะเจอกันต่อไป จนกว่าจะมีประชาธิปไตย ใครอยากไปราชดำเนิน ใครอยากไปทำเนียบรัฐบาล ใครอยากไปกองทัพบก” โดยมีเสียงตอบรับดังสนั่น จากนั้นกิจกรรมได้จบลงอย่างเรียบร้อย