‘จุรินทร์’ รับหน้ากากอนามัยขาดตลาด เร่งผลิต 35 ล้านชิ้น สกัดส่งออก ชิ้นเดียวก็ต้องขออนุญาต

เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ จ.สุโขทัย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีหน้ากากอนามัย ว่า คณะรัฐมนตรีได้หารือกันได้กำหนดแผนในการรองรับแก้ไขปัญหาโดยดำเนินการ 2 ทาง คือ 1.การใช้หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรมมีอยู่ด้วยกัน 9 โรงงานทั่วประเทศ ซึ่งศักยภาพในด้านการผลิตต่อเดือน 30 ล้านชิ้น ซึ่ง 30 ล้านชิ้นนี้ ช่วงแรกพอไหว แต่เมื่อสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นซึ่งทุกประเทศในโลกก็มีปัญหาคล้ายกัน

“เราก็เริ่มตึงในเรื่องของหน้ากากอนามัยว่าเริ่มขาดตลาด จึงต้องประกาศเป็นสินค้าควบคุม กำหนดว่าการส่งออกต้องขออนุญาตถ้าเกิน 500 ชิ้น แต่มีคนหิ้วออกไปนอกประเทศ จึงต้องออกประกาศมาใหม่เมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่าชิ้นเดียวก็ต้องขออนุญาต คือต้องขออนุญาตทั้งหมด ซึ่งเป็นการสกัดการนำออก เพราะในประเทศเรายังไม่พอใช้ ต้องให้ในประเทศเราต้องพอใช้ก่อน จึงจะอนุญาตส่งออกได้หรือเป็นชนิดที่ประเทศไทยไม่ใช้”

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า นโยบายตอนนี้คือจะเพิ่มกำลังการผลิตแล้วเป็น 35 ล้านชิ้นต่อเดือน เพื่อให้กระจายอยู่ในประเทศ ซึ่งกรมการค้าภายในต้องบริหารจัดการโดยจัด 30% ให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแบ่งไปใช้ในโรงพยาบาลต่างๆ ให้เพียงพอสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลทั้งหมด ที่เหลือต้องจัดให้กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญคือต้องนำมากระจายให้ทั่วถึงในร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านธงฟ้าของกระทรวงพาณิชย์ และร้านค้าย่อยทั่วประเทศ ขณะนี้พาณิชย์จังหวัดรวบรวมตัวเลขสั่งเข้ามาที่ท่านอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นผู้บริหารจัดการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กระจายไปทั่วถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้ภายใต้ข้อจำกัดเรื่องกำลังการผลิตเดือนละแค่ 35 ล้านชิ้นและวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าจากประเทศจีน แต่ไม่กี่วันมานี้เราแก้ปัญหาโดยการหาแหล่งวัตถุดิบอื่นได้จากอินโดนีเซียส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาทำหน้ากากอนามัย

2.รัฐบาลมีนโยบายกำหนดให้มีการผลิตหน้ากากทางเลือก ซึ่งผลิตด้วยผ้าทั่วไป โดยให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการหน่วยการปกครองส่วนท้องถิ่น แม่บ้าน ผลิตออกมาแล้วใช้เอง เพราะกระทรวงสาธารณสุขรับรองแล้วว่าสามารถใช้ป้องกันโควิด-19 ได้ ซึ่งโควิด-19 สามารถติดต่อผ่านการไอ จาม สารคัดหลั่งไปสัมผัส ถ้าผ้ากันได้ก็จะไม่ติดต่อกัน ทางกระทรวงสาธารณสุขรับรองแล้วว่าหน้ากากผ้าสามารถทดแทนหน้ากากอนามัยได้ ซึ่งผลิตจากโรงงานอุตสากรรมได้ตั้งเป้าจะทำ 50 ล้านชิ้นโดยกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดำเนินการ