‘สุทิน’ ขอโทษ หลังประเมินผิดพลาด จนไม่เหลือเวลาอภิปรายให้น้อง ๆ อนาคตใหม่

เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 28 ก.พ. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นกับพรรคอนาคตใหม่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล

นายสุทิน กล่าวว่า ตนเรียนว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เราตั้งใจเต็มที่ที่จะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ เราพอใจ แม้วันแรกจะไม่พอใจบ้าง แต่วันต่อๆ มาก็พอใจ และคาดหวังว่าวันสุดท้ายคือวันสรุป จะเป็นวันที่เราจะได้สรุปให้ดีที่สุด มีทีเด็ด แต่เสียดายที่ไปไม่ถึงตรงนั้น เราโทษตัวเราเองว่าประเมินฝ่ายรัฐบาลผิดพลาด

เรายอมรับว่ามีการตกลงกันจริงระหว่าง 3 ฝ่าย แต่เป็นการตกลงให้บริหารกระชับให้จบที่เวลา 19.00 น. แต่ก็พูดปลายเปิดไว้ว่า ถ้าอภิปรายไม่จบอย่างไรให้ขยายไปถึงเวลา 00.00 น. ซึ่งหลายวันที่ผ่านมาเราก็อภิปรายกันถึงตี 1 ตลอด เราก็คิดว่าวันสุดท้ายจะไปถึง 00.00 น. ก็น่าจะไม่มีปัญหา

ตลอดการอภิปรายเราพยายามจัดคิวเต็มที่ แต่ก็คลาดเคลื่อนเพราะมีหลายปัจจัย ทั้งรัฐบาลประท้วง ฝ่ายค้านประท้วง รัฐมนตรีชี้แจง เรื่องเวลาเกินเราต้องขอโทษเพื่อนร่วมงาน แต่เราเชื่อว่าเวลาที่เหลืออยู่จะขอได้ และเพื่อนจะได้อภิปรายกันครบ

แต่เมื่อเราเห็นปัญหาที่ส่อว่าจะทำให้การอภิปรายมีปัญหา เราก็ได้เลื่อนให้นายปกรวุฒิ อุดมพิพัฒน์กุล ส.ส.อนาคตใหม่ ได้อภิปรายพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ทั้งที่ไม่อยู่ในคิว แต่ก็ไม่จบอยู่ดี อภิปรายได้เพียงครึ่ง

ส่วนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ไม่ได้อภิปรายถึงเลย ก็มีการเจรจาต่อรองกันหลายรอบ ฝ่ายรัฐบาลก็อ้างว่าเป็นข้อตกลง เราก็ยอมรับว่าเป็นข้อตกลง แต่ถ้าข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ข้อตกลงก็ไม่ได้อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ข้อตกลงไม่ใช้กฎหมาย เราพยายามทำตามข้อตกลงแล้ว แต่เมื่ออภิปรายยังไม่จบสิ้นก็ต้องเข้าใจได้ ขอเพียงอีก 1 ชั่วโมงก็อภิปรายครบแล้ว

นายสุทิน กล่าวต่อว่า เราเสียใจ ต้องขอโทษประชาชนที่เราทำหน้าที่ได้ไม่ครบ เพราะรัฐบาลไม่เอื้ออำนวยให้เราได้ทำงานจริงๆ เพื่อนร่วมงานเรา เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ก็ทำให้เรากระทบกระทั่งกันบ้าง เราได้คุยและปรับความเข้าใจกันแล้ว

“ส่วนชื่อพล.อ.ประวิตร ที่เอาไว้ท้ายสุด เราจัดมาตั้งแต่แรก ไม่ได้มาเปลี่ยนเอาทีหลัง เรื่องนี้เราอธิบายกันเข้าใจและจะทำงานด้วยกันต่อ การทำงานใหญ่มีข้อบกพร่องได้ เป้าหมายหลักคือประชาธิปไตยและต่อสู้กับเผด็จการ เราเข้าใจตรงกันแล้ว”

“เราเห็นใจน้องๆ อนาคตใหม่ เขาตั้งใจดี เป็นส.ส.ใหม่ที่ตั้งใจมาก เขาอยากอภิปรายให้จบ แต่ด้วยสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้น เราประเมินผิดพลาด การเข้าใจผิดกันอย่างนี้เคยมี คุยกันแล้วเข้าใจก็ให้อภัยกัน ยืนยันว่ายังทำงานด้วยกันต่อไป เราขอโทษน้องเขาแล้ว และวันที่ 4 ก.พ.นี้ พรรคอนาคตใหม่ และพรรคร่วมฝ่ายค้านจะนัดทานข้าวกันด้วย”