เปิดเบื้องลึก แฉแหลก รอยร้าวพรรคฝ่ายค้าน ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

รายงานข่าวจากวงประชุม 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ระบุว่า สถานการณ์ความไม่พอใจในการจัดวางคิวการอภิปรายเริ่มมาคุตั้งแต่ช่วงวันที่ 2 ของการอภิปราย ซึ่งในวันที่ 2 ของการอภิปราย อดีตพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ขอเวลาช่วงไพรม์ไทม์ คือเวลา 20.00 น. ให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยอนค.ย้ำหลายครั้งว่าเป็นการอภิปรายที่รับรองว่าเด็ดจริงๆ แต่ไม่มีการจัดการที่ดี จนนายวิโรจน์ ได้ขึ้นอภิปรายจริงในเวลาเกือบ 23.00 น.

อย่างไรก็ตาม 6 พรรคร่วมได้ปิดห้องประชุมร่วมกันในวันที่ 3 ของการอภิปรายในเวลาช่วงก่อนเที่ยง โดยเชิญนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน มาร่วมประชุมด้วย เพื่อตกลงกันในเรื่องนี้ ทาง อนค.ระบุว่าไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย เพราะต้องรอคิวอภิปรายจากวิปพท.

ซึ่งการจัดคิวอภิปรายขึ้นกับ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคพท. และประธานวิปฝ่ายค้านเป็นหลัก ที่มักไปจัดคิวในห้องวอร์รูม 301 ที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ พท. ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาตร์ มานั่งหัวโต๊ะวอร์รูมจัดส.ส.ขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกวัน

รายงานข่าวแจ้งว่า ตลอดช่วงวันแรกมาถึงช่วงสายของวันที่ 3 คิวการอภิปรายออกมาทีละ 1-2 ชื่อ จนประธานสภาเอ่ยบนบัลลังก์ว่า ขอฝ่ายค้านส่งคิวชื่อคนอภิปรายให้ด้วย และไม่เคยมีมาก่อนที่มาส่งให้ทีละชื่อสองชื่อเช่นนี้ ซึ่งในการประชุมแกนนำ 6 พรรคร่วม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคพท. จึงบอกให้เอารายชื่อทั้งหมดที่จะอภิปรายขึ้นกระดาน พร้อมกำกับเวลาที่จะใช้อภิปรายไว้ด้วย

ทั้งนี้ ในการประชุม อนค.ขอให้อภิปรายนายกฯให้จบภายในวันที่ 3 เพราะวันที่ 4 จะได้ใช้เวลาที่เหลืออภิปรายรัฐมนตรีคนอื่นๆ ซึ่งที่ประชุมเคาะร่วมกันอย่างนั้นในช่วงเที่ยงๆ แต่เอาเข้าจริง ชื่อที่เคยกางร่วมกันในวงประชุมก็มีการปรับเปลี่ยนอีก

และช่วงบ่าย พท.ก็ตั้งโต๊ะแถลงในห้อง 301 ซึ่งเป็นวงใหญ่ ระบุจะอภิปรายนายกฯถึงเที่ยงวันที่ 4 ซึ่งไม่ได้ตรงกับข้อตกลงที่ทำไว้ในห้องประชุม 6 พรรคร่วมช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้อนค.ต้องหักคอ ใช้แท็คติกเอาชื่อร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มาอภิปรายพ่วงนายกฯเข้าไป จึงได้อภิปรายรัฐมนตรีคนอื่นบ้าง

รายงานข่าว ระบุอีกว่า การอภิปรายวันที่ 4 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.พรรคพท. จะอภิปรายเป็นคนแรก ซึ่ง 6 พรรคร่วมไม่เข้าใจว่า ทำไมนายศรัณย์วุฒิใช้เวลาอภิปรายคนเดียวยาวนานถึง 3 ชั่วโมง พท.ล้มเหลวในการจัดการ ไม่สามารถเบรกคนของตัวเองได้เลย ผู้อภิปรายทั้งที่รู้ว่าเกินเวลามาเป็นชั่วโมง ก็ไม่แคร์คนอื่น ทำให้ภาพที่ออกมาเหมือนปล่อยให้นายศรัณย์วุฒิ อภิปรายไปเรื่อยๆ

นอกจากนี้ที่วิปรัฐบาลบอกว่าคิดว่าจะตกลงกับรัฐบาลให้ขยายเวลาออกไปนั้น คิดได้ แต่ควรเคารพเวลาที่ตกลงร่วมกันก่อน การขอเวลาเพิ่มเติมค่อยเกิดขึ้นทีหลัง ไม่ใช่ใช้เวลาของสมาชิกพรรคอื่นไปก่อน หวังลมๆแล้งๆที่จะขอเวลาเพิ่มแล้วเอามาแบ่งให้ทีหลังเช่นนี้

นอกจากนี้พรรคร่วมยังตั้งข้อสังเกตว่าคนของพท.ตลอด 3 วัน จะได้ขึ้นอภิปรายในช่วงเวลาไพรม์ไทม์เสมอ ซึ่งหากมีการสรุปปิดในเวลา 19.00 น.จริงตามที่วิปฝ่ายค้านไปตกลงมา นายสุทินซึ่งเป็นผู้สรุปปิดก็จะได้ขึ้นพูดในช่วงเวลาดังกล่าวในวันที่ 4 อีกด้วย

รายงานข่าวจากพรรคเล็ก ระบุว่า ที่ประชุมพรรคร่วมตั้งแต่เริ่มแรกได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อไปเจรจากับรัฐบาลทั้งหมด 5 คนแบบคละพรรค แต่เวลาที่มีการเจรจากับรัฐบาล เลขาธิการพรรค พท. และประธานวิปฝ่ายค้าน มักไปเจรจาโดยไม่ได้แจ้งคณะกรรมการคนอื่นๆ ซึ่งหลายครั้งที่ไปตกลงกับรัฐบาล เช่น เรื่องเวลาหรือเรื่องการไม่ให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายเรื่องถวายสัตย์

โดยที่กรรมการคนอื่นที่มาจากพรรคร่วมก็ไม่รู้ และการให้คิวกับพรรคเล็กร่วมอภิปรายก็ไม่ชัดเจน ตัวแทนบางพรรคเกือบไม่ได้ขึ้นพูดในเวลาที่ตกลงไว้ หรือหัวหน้าพรรคบางพรรคเตรียมตัวมาอภิปราย ก็ถูกเลื่อนให้อภิปรายอีกวันหนึ่งโดยไม่ทราบเหตุผล