อ่านทีละคำ แถลงการณ์ ‘กลุ่มลูกพ่อขุนโค่นล้มเผด็จการ’ ลั่น ไม่ได้สั่นกระดิ่งฟ้องพ่อขุนรามฯ แต่สั่นเพื่อย้ำ ‘จะไม่นิ่งอีกต่อไป’

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช เสด็จพ่อขุน มหาวิทยาลัยรามคำแหง จัดกิจกรรมแฟลชม็อบ #ลูกพ่อขุนไม่รับใช้เผด็จการ โดยมีนิสิต นักศึกษา และผู้สนใจทยอยเข้าร่วมตั้งแต่เวลา 16.30 น. นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งร่วมสังเกตการณ์

ต่อมา กลุ่มลูกพ่อขุนโค่นล้มเผด็จการได้อ่านแถลงการณ์กลุ่มฯ เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

การยึดอำนาจรัฐประหาร ในนามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 กระทั่งมีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นเวลา 5 ปี ที่ตอกย้ำชัดเจนว่า การรัฐประหารไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศได้ อำนาจเบ็ดเสร็จผ่านกระบอกปืนนอกจากจะไม่ช่วยให้ประเทศพัฒนาในระยะยาวแล้ว ยังเป็นการฉุดรั้งประชาธิปไตยของประเทศด้วย “รัฐประหาร” ไม่ช่วยให้เกิดการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ ความโปร่งใส แต่เป็นการเปิดช่องทางแก่กลุ่มทุน นายทหาร เข้ามามีส่วนในการกอบโกยผลประโยชน์มหาศาล รัฐประหารลิดรอนสิทธิ เสรีภาพ ประชาชน มีการจับกุมนักศึกษา ประชาชนที่เห็นต่างในหลายกรณี “รัฐประหาร” สืบทอดอำนาจผ่านกลไกรัฐธรรมนูญ 2560 มีบทเฉพาะกาลให้วุฒิสภาจากการเลือกของคณะรัฐประหารมีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี รัฐประหาร ก่อให้เกิดความบิดเบี้ยวในกระบวนการยุติธรรม เช่น กรณีนาฬิกายืมเพื่อไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน หรือกระทั่งล่าสุดที่มีการสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่เพราะการกู้เงิน

แม้วันนี้ประเทศจะมีการเลือกตั้งเสมือนว่าเข้าสู่กระบวนการทางประชาธิปไตย แต่ผลพลงของการรัฐประหาร สืบทอดอำนาจผ้านรัฐธรรมนูญ ได้รัฐบาลที่ไม่ตรงกับเจตจำนงของประชาชน ไม่เป็ที่ยอมรับของประชาชน ทำให้การบริหารประเทศไม่ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างอารยะประเทศ ไม่มีวิสัยวัศน์ในการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ไม่มีการตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานตามกลไกต่างๆ ได้อย่างแท้จริง รัฐประหารได้แต่งตั้งคนของตนเองเข้าไปทำหน้าที่ในองค์กรต่างๆ ขาดการตรวจสอบอย่างยุติธรรม และใช้องค์กรต่างๆ กลั่นแกล้งผู้เห็นต่างอีกด้วย

นักศึกษา ประชาชน ได้ติดตาม เฝ้ามองการทำงานของคณะรัฐประหารมาอย่างต่อเนื่อง ถึงเวลาแล้วที่นักศึกษา ประชาชน ไม่ควรจะนิ่งเฉยต่อสภาพการที่ดำรงอยู่ ต้องลุกขึ้นมาทวงถามรัฐบาลที่บริหารประเทศอยู่ ต้องร่วมกันเสนอทางออกให้ประเทศ จึงขอเรียกร้องดังนี้

1.ให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มีการรับฟังความคิดเห็นอย่างอิสระ และให้มีการทำปรามติก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ

2.ให้นายกรัฐมนตรีลาออก เปิดทางให้รัฐสภา เลือกนายกรัฐมนตรีที่จะนำพาประเทศข้ามพ้นวิกฤต มีความเชื่อมั่น และมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนได้

3.ให้ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์อิสระที่ได้รับการแต่งตั้งในสมัยรัฐประหารลาออก และให้มีการสรรหาบุคคลใหม่เข้าไปแทนที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ

นี่ไม่ใช่การสั่นกระดิ่งร้องทุกข์ต่อพ่อขุน แต่นี่คือการสั่นกระดิ่งให้รู้ว่า รามคำแหงจะไม่นิ่งอีกต่อไป