เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ฝ่ายค้านวอล์กเอาท์จากห้องประชุม ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้ลงมาแถลงข่าวเพื่อขออภิปรายนอกสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากยังอภิปรายไม่ครบ เช่น นพ.ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เลือกอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในประเด็นความล้มเหลวการบริหาร ที่นำพาประเทศไทยให้เป็นบ่อขยะของโลก เพราะในปี 2562-2563 มีการนำเข้าขยะจากต่างประเทศถึง 7,000% อีกทั้ง รัฐบาลยังออกกฎหมายเพื่อให้สามารถเปิดโรงงานไฟฟ้าขยะได้อย่างง่ายดาย อันเป็นบ่อเกิดของปัญหามลพิษ ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของคนไทย

จากนั้น นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ อภิปรายเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ และโรฮิงญา ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั่งเป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ มีความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ที่ทำเพียงการขายผ้าเอาหน้ารอด ให้พ้นจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ กลั่นแกล้งนายตำรวจที่มีผลงานโดดเด่น ปล่อยปละละเลยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ และปล่อยให้การปราบปรามการค้ามนุษย์ในประเทศไทยเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้อภิปราย พล.อ.ประวิตร ในเรื่องการตั้งมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในค่ายทหาร ถือว่าผิด เพราะ พล.อ.ประวิตร เป็นทหารเกษียณอายุ ซึ่งจุดประสงค์ของการตั้งมูลนิธิฯ มีขึ้นเพื่อรักษาป่า แต่กลับใช้เป็นที่จัดโผทหารตรวจ และเหมือนเป็นการซ่องสุมของ พล.อ.ประวิตร ทำให้มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เป็นพื้นที่ซ่องสุมของผู้มีอำนาจ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบูรพาพยัคฆ์ เรามักจะเห็นว่าซ่องโจรตั้งอยู่ในป่า แต่ไม่ได้ว่า พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าซ่องโจร แต่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ซึ่งตั้งอยู่กลางเมือง จะทำเรื่องเกี่ยวกับการเมือง และดูแลน้องๆ บูรพาพยัคฆ์ เพราะ พล.อ.ประวิตร เป็นพี่ใหญ่