ทัพบก โต้ ‘ศรัณย์วุฒิ’ ยัน ‘ยุทโธปกรณ์’ ของใหม่ ไม่ใช่เซียงกง กระบวนการจัดหาชัดเจนทุกขั้นตอน

“ทบ.” โต้ “ศรัณย์วุฒิ” ทบ.ชัดเจนในกระบวนการจัดหายุทโธปกรณ์ ทุกขั้นตอน ชี้เอกสารที่นำมาใช้ไม่ตรงกับของทบ. ยัน จัดซื้อรถถังแบบ G To G

เมื่อวันที่ 27 ก.พ.พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงเกี่ยวกับการอภิปรายของ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจ.อุตรดิตถ์ ในสภาฯวันนี้ (เมื่อ 27 ก.พ.) ในเรื่องการจัดหารถถัง OPLOT ว่า การอภิปลายในเรื่องดังกล่าวจากการตรวจสอบ พบว่ามีข้อมูลที่ไม่ตรง กับเอกสารในระบบราชการ ของกองทัพบก ยืนยันว่าการจัดหารถถัง OPLOT เป็นโครงการที่ดำเนินการในลักษณะ รัฐบาล กับ รัฐบาล หรือ (G to G) ซึ่งใช้กลไกของหน่วยงานภาครัฐ ของแต่ละฝ่าย เป็นผู้ร่วมดำเนินงานจริง มีการจัดทำเอกสารบันทึกความตกลง ระหว่างรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศ สำหรับฝ่ายไทย มีหน่วยราชการ ที่มาร่วมดำเนินการกับกองทัพบกได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานอัยการสูงสุด ในการร่วมทำบันทึกความตกลงในโครงการจัดหาครั้งนี้

“รายละเอียด ในบันทึกความตกลง ในเรื่องของตัวยุทโธปกรณ์ ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ต้องเป็นยุทโธปกรณ์ที่ผลิตใหม่ จึงไม่ใช่ยุทธภัณฑ์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว อย่างที่มีการอภิปรายในสภาฯ” พ.อ.วินธัย กล่าว

พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า ส่วน เงื่อนไขการชำระเงิน เมื่อคู่บันทึกความตกลง ได้ดำเนินการผลิตและส่งมอบ ตามข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการ ชำระเงินให้กับประเทศยูเครนโดยตรง ตามที่ได้ระบุไว้ในบันทึกข้อตกลง ไม่ใช่ผ่านกระบวนการนายหน้า หรือบุคคลอื่นตามที่ผู้อภิปรายได้กล่าวในสภาฯแต่อย่างใด

โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี ที่มีการนำเอาคลิปวิดีโอรถถัง เร่งเครื่องยนต์แล้วมีควันดำ ดูเหมือนมีสภาพผ่านการใช้งานมาระยะหนึ่งแล้ว รถคันที่ถูกนำเสนอดังกล่าวไม่ใช่รถในโครงการของกองทัพบก เชื่อว่า ข้อมูลที่นำมาอภิปราย น่าจะเป็นเพียงการรวบรวมจากเอกสาร ตามความเข้าใจส่วนบุคคล จึงอาจไม่ตรงกับเอกสารที่มีอยู่ในระบบราชการ

“ผมเชื่อว่า ข้อมูลที่ทางกองทัพบกได้ชี้แจงเกี่ยวกับ โครงการจัดหารถถัง OPLOT ในครั้งนี้ เป็นการย้ำให้เห็นถึงความชัดเจนในกระบวนการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพ”พ.อ.วินธัย กล่าว