เพื่อไทยหารือ เตือนนายกฯระวังจนท.กระทบนศ. ด้านนายกฯห่วงถูกปลุกระดมมาชุมนุม

พท.ขอหารือห่วงจนท.ปะทะนศ.นำไปสู่เหตุการณ์ร้ายแรง ด้าน “บิ๊กตู่”ยันเป็นห่วงนักศึกษาถูกชักจูง ฟังความข้างเดียว เตือนอย่าโยงสถาบันไปปลุกระดม เพราะจำเป็นต้องทำตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี เป็นรายบุคคลเป็นวันที่ 4 โดยก่อนเข้าสู่วาระ นายศุภชัยแจ้งให้ทราบถึงระยะเวลาการอภิปรายที่ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านใช้ไปว่า ฝ่ายรัฐบาลใช้เวลาไป 5 ชั่วโมง 39 นาที ฝ่ายค้านใช้เวลาไป 17 ชั่วโมง 42 นาที

จากนั้นนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ขอหารือก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ขณะนี้มีการชุมนุมของนักศึกษาหลายมหาวิทยาลัย ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น เหมือนเหตุวันที่ 14 ต.ค. 2516 วันมหาวิปโยค ดีใจที่นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทย อยู่ในสภาหมด ขอเรียนว่าขณะนี้มีตำรวจเข้าไปในสถานศึกษา ทั้งที่ไม่ควรเข้าไป สิ่งนี้จะเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ ขอเตือนนายกฯอย่าประมาท อย่าให้เกิดการกระทบกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับนักศึกษา ประชาชน ถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ ไม่ใช่แค่รัฐบาลอยู่ไม่ได้เท่านั้น สภาฯก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน ขอให้นายกฯสัญญาจะไม่เกิดการเข่นฆ่าประชาชน

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมที่เกิดขึ้นตามสถาบันการศึกษาว่า เข้าใจถึงความหวังดีของทุกคน รัฐบาลทำเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ การดำเนินการต่างๆ จะเป็นไปตามกฎหมาย บางครั้งยังไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมายด้วยซ้ำ กังวลกับเด็กเหล่านี้อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกชักชวน ถูกปลุกมา โดยฟังความข้างเดียว ขอให้นักศึกษาที่ชุมนุมเวลานี้ฟังข้อมูลรัฐบาล เลือกฟังว่า จะเชื่อทางไหน เพราะไม่ต้องการให้ไปทางใดทางหนึ่ง เว้นแต่มีบางฝ่ายต้องการให้ไปทางใดทางหนึ่ง

“สิ่งที่กังวลคือกฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าวันนี้วันหน้า ผมไม่ได้ขู่ แต่หลายอย่างถูกดำเนินคดีความ ทั้งเหตุปี 2553 ปี2557 ไม่ว่าสีใดก็ตาม หรือเหตุการณ์ปี 2516 ปี 2519 อย่างปี 2553 รู้อยู่ว่า คนที่ออกมาจำนวนมากคือ ใคร ปลุกระดมกันอย่างไร ผมไม่ได้โกรธเด็กๆ หลานๆ ลูกๆ เลยเพราะเป็นผู้มีแรงกระตุ้นพอสมควร เด็กรุ่นใหม่ต้องทำให้เขาเกิดประโยชน์สูงสุด ผมไม่เคยสั่งการว่าต้องไปปะทะ เว้นแต่เป็นการป้องกันตัวเอง จะใช้มาตรการเบาที่สุด ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย ถ้าเขาไม่ทำก็มีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ต้องช่วยกันคิดทั้งสองทาง ตนไม่โทษนักศึกษา แต่อาจจะต้องกล่าวถึงคนที่ไปนำสิ่งเหล่านี้ออกมา ตนคิดว่าอันตรายที่สุดเลย แล้วอนาคตเขาจะหมดไปในวันหน้าด้วยคดีอาญา ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกจริงๆ ต้องเตือนว่าขณะนี้ได้มีการนำเรื่องหมิ่นสถาบันเข้ามาไปขับเคลื่อนด้วย ยอมไหมละ ถ้าท่านยอม ตนก็โอเค ถ้าท่านเห็นว่าถูกต้องตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน จำเป็นต้องว่าไปตามกฎหมาย อย่าไปทำอย่างนั้น ขอโดยเด็ดขาด คิดว่าสภาแห่งนี้เป็นสภาที่เคารพสถาบัน เชื่อมั่นอย่างนั้น อย่าทำโดยเด็ดขาด ถ้าไปสู่ตรงนั้นจะเกิดเรื่องขึ้นอย่างที่ท่านว่าเมื่อตะกี้นี้