ที่บริเวณบึงสีฐาน ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. ยังคงมีกลุ่มนักศึกษา มข. รวมไปถึงชาวขอนแก่น รวมกว่า 2,000 พัน ปักหลักชุมนุมทำกิจกรรม เชิงสัญลักษณ์ อย่างสร้างสรรค์ ในชื่อกลุ่ม “มข.พอกันที” ที่ได้มีการกำหนดจัด แฟลชม๊อบ คุยการเมือง โดยมีการแสดงดนตรีจากนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน พร้อมกลุ่มนักศึกษา รวมทั้งอดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง อย่างเข้มงวด

ขณะที่ในช่วงของการกำหนดจัดกิจกรรมนั้น ยังคงได้รับความสนใจจากนักศึกษา และประชาชนชาวขอนแก่น เข้าร่วมกิจกรรมกันเพิ่มมากขึ้น โดยมีตัวแทนนักศึกษาสลับกันขึ้นพูดโจมตีการทำงานของรัฐบาล ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าล้มเหลว นอกจากนี้ยังมีการแสดงสัญลักษณ์ด้วยการเปิดแสงสว่างจากโทรศัพท์มือถือ
จากนั้นตัวแทนนักศึกษา และการอ่านแถลงการณ์กลุ่ม “มข.พอกันที” ที่ระบุว่าด้วยความคิดเห็นของสถานการณ์ทางสังคมการเมือง และกฎหมายกรณียุบพรรคอนาคตใหม่ นับตั้งแต่วันที่เรามีรัฐประหาร ประเทศชาติตกอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการ กฏหมายถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และพวกคนรุ่นใหม่ต่างทำได้เพียงแสดงออกทางความคิดอันถือเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน จวบจนมาถึงวันเลือกตั้งที่ต่างมุ่งหวังว่าประเทศนี้จะยืนขึ้น สิทธิเสรีภาพจะได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแต่ทุกอย่างกลับเลวร้ายขึ้น เกิดปัญหามากมายในประเทศ เพราะรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถในการบริหารจัดการ ประกอบกับกรณีการยุบพรรคอนาคตใหม่ ที่ศูนย์รวมความหวังของประชาชนกว่า 6 ล้านเสียงทั่วประเทศ ที่ยังมีข้อกังขาของสังคมและกฏหมาย พวกเราจึงอยากชี้แจงว่า พอแล้วพอกันทีกับรัฐบาลเฮงซวย พอกันทีกับรัฐธรรมนูญเผด็จการที่ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน พอกันทีกับตุลาการภิวัตร ตื่นเถอะพวกเราคนรุ่นใหม่ นิสิต นักศึกษา ประชาชนผู้รักในประชาธิปไตย จงตื่นขึ้นมาให้เสียงของเราดังขึ้น ดังกว่าในโลกออนไลน์ ลุกขึ้นมาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง สร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมด้วยตัวของพวกเราเอง “ มข.พิกันที” 26 กุมภาพันธ์ 2563

ขณะที่ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน กล่าวว่า การรวมตัวครั้งนี้ ทุกคนต่างมีหน้าที่รับผิดชอบ คนที่เรียนก็ต้องเรียน คนทำงานก็ทำไป แต่ทุกคนก็ยังร่วมใจมาไล่ลุง และจะไล่แบบนี้ไปเรื่อย นั่งไล่ไม่ ก็นอนไล่ ถ้านอนไล่ไม่ออก ก็ชวนเพื่อน คนข้างตัวมาร่วมไล่ ถ้ายังไม่ออก เชื่อว่าบนถนนทุกสายก็จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาร่วมไล่ลุง นอกจากนี้ ไผ่ ยังพูดถึงการชู 3 นิ้วว่า คนที่ชู 3 นิ้วเป็นเรื่องน่ากลัว เป็นคนทำความผิด และถูกจับเข้าคุกมาแล้ว ในวันนี้อยากเห็นทุกคนที่มาร่วมกิจกรรม ชู 3 นิ้วด้วยกัน ซึ่งปรากฏว่า นักศึกษาและประชาชนที่มาร่วมกิจกรรม ต่างก็ชู3 นิ้วกันทุกคน ซึ่งไผ่ยังฝากถึงลุงตู่ว่า ถ้าไม่ออก ก็ให้ติดตามดูว่า พลังประชารัฐหรือจะสู้พลังประชาชน