ต้องตายอีกกี่คนถึงยอมสละเก้าอี้ ? ‘จิราพร’ เพื่อไทย ฉะยับ “รบ.บิ๊กตู่”ทำเศรษฐกิจพังพินาศ

วันที่ 25 ก.พ. ที่รัฐสภา บรรยากาศการอภิปรายเริ่มเข้มข้น เมื่อน.ส.จิราพร สุนธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายโดยการเปิดคลิปวิดีโอการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม พูดต่างกรรมต่างวาระแบบไร้วุฒิภาวะ และไร้วิสัยทัศน์ในการบริหารงานด้านเศรษฐกิจอย่างสิ้นเชิง อาทิ การเเนะนำประชาชนให้ไปปลูกหมามุ่ยเป็นพืชเศรษฐกิจ ให้ไปขายยางพาราที่ดาวอังคาร น้ำท่วมก็ให้ชาวบ้านเลี้ยงปลา ยกตัวเลขจีดีพีของไทยไปเปรียบเทียบกับประเทศพัฒนาเเล้ว คงต้องไปเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่องจีดีพี ที่จะไปเอาความสุขคนไทย ไปเทียบกับความสุขของประเทศพัฒนาเเล้วไม่ได้

“สภาพเศรษฐกิจกำลังดิ่งลงเหว กว่า 5 ปีที่ผ่านมา เจ๊งไม่เป็นท่า นายกฯ พูดอยู่คนเดียวว่าเศรษฐกิจดี เคยถามประชาชนดูไหม คนจะอดตายกันหมด ซึ่งมันวิกฤติถึงขนาดที่ว่า ไม่มีคนจะมานำเศรษฐกิจประเทศ ถึงขนาดเอาหัวหน้ารัฐประหารมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ”

“ล้มเหลวเรื่องกำหนดนโยบาย เพราะรัฐบาลมาจากการต่อรองของหลายกลุ่มหลายฝ่าย การค้าระหว่างประเทศจึงไร้ทิศทาง ล้มเหลว การเจรจาไม่เป็นตามเป้า ขนาดประเทศในอาเซียนกันเองยังกีดกันการค้ากับไทย ทั้งที่นายกฯ เดินทางไปต่างประเทศไม่น้อยกว่า 50 ครั้ง ใช้งบหลายร้อยล้านบาท แต่ไม่รู้จักวิธีหารายได้เข้าประเทศ”

น.ส.จิราพร กล่าวอีกว่า ขณะที่ประชาชนกำลังวิตกกับไวรัสไคโรนา แต่มีประเทศไทยเพียงประเทศเดียวที่ขายหน้ากากให้ประชาชน เจ้าหน้าที่กำลังหารายได้จากการขายหน้ากากกับประชาชน แต่พล.อ.ประยุทธ์กำลังขายหน้าอยู่ในทำเนียบรัฐบาล

“รัฐบาลล้มเหลวด้านเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา ไม่สามารถรักษาสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(จีเอสพี) ไว้ได้ ถูกประกาศตัดจีเอสพี ไทย 573 รายการ สหรัฐฯ ประสานผ่านสถานเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ชิงตันอย่างต่อเนื่อง พล.อ.ประยุทธ์ทราบเรื่องมาตลอด แต่ต้องการปกปิดความจริงเรื่องไม่สามารถเจรจาแก้ไขปัญหาได้ จึงมาอ้างกับประชาชนว่าเพิ่งมาทราบเรื่อง พอจะสรุปได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ พูดเท็จกับประชาชน และนำมาซึ่งความเสียหายร้ายแรงในเวลาต่อมา”

น.ส.จิราพร กล่าวต่อว่า สหรัฐตัดจีเอสพีไทยหลังการยึดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์เพียง 5 เดือน จากนั้นสหภาพยุโรป ตุรกี และแคนาดา ก็ทยอยตัดจีเอสพีไทยตามสำดับ การทำรัฐประหารทำให้ไทยเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง กลายเป็นจุดอ่อนไม่เป็นที่ยอมรับของประชาคมโลก ถูกคู่ค้าที่เป็นประเทศประชาธิปไตยรุกอย่างหนักจนเสียเปรียบในการเจรจา รวมความเสียหายที่ไทยถูกตัดจีเอสพีในสมัยพล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันเป็นมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท คือ 6 ปีที่สูญเปล่าของคนไทย

“ผลกระทบไปยังแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับสิทธิจีเอสพีที่มีมากกว่า 1.5 ล้านคน แรงงานภาคสนับสนุนการเกษตรอีกกว่า 7 ล้านคน แรงงานภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกกว่า 10 ล้านคน ผลกระทบเป็นโดมิโน่ ผีซ้ำด้ำพลอย ส่งออกกำลังร่อแร่กระทรวงพาณิชญ์ออกมายอมรับแล้วว่า สหรัฐฯ ปิดประตูตายไม่ยอมให้ทูตพาณิชย์ไทยเข้าไปเจรจาเรื่องจีเอสพี พล.อ.ประยุทธ์ กำลังจะเป็นต้นเหตุให้คนตกงานเพิ่มอีกนับล้านคน”

น.ส.จิราพร กล่าวอีกว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร มีปมด้อยโหยหาการยอมรับจากนานาชาติ ถึงขนาดต้องยอมซื้ออาวุธ และเปิดตลาดสุกรให้กับสหรัฐฯ เอาชีวิตประชาชน และเอาผลประโยชน์ประเทศไปแลก เพียงเพื่อจะได้เข้าพบประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่ามาอ้างว่าถ้าประชาชนไม่เลือกแล้วท่านเข้ามาเป็นนายกฯ ได้อย่างไร นั่นเพราะกติกาออกแบบมาเพื่อพวกท่าน ท่านแพ้การเลือกตั้ง แต่ชนะในกติกา ท่านแพ้ในคูหา แต่กติกาอุ้มท่านเป็นรัฐบาล และเมื่อท่านมาเป็นนายกฯ สมใจอยาก กลับบริหารประเทศเศรษฐกิจพังพินาศ

“พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าปี 2561 คนจนจะหมดไปจากประเทศ นั่นเป็นเรื่องจริง เพราะคนจนกลายเป็นคนตาย ฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจ ทุกวันนี้ฆ่าตัวตายกันรายวัน ต้องให้อีกกี่ร้อยกี่พันชีวิตต้องมาสังเวยกับการบริหารประเทศที่ไร้ประสิทธิภาพของพล.อ.ประยุทธ์ ต้องให้คนตายอีกกี่คนพล.อ.ประยุทธ์ จึงจะยอมสละเก้าอี้ หากยังมีนายกฯ ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ อีกไม่นานประเทศจะเข้าสู่หายนะทางเศรษฐกิจ ประชาชนมืดมนสิ้นหวังอย่างแน่นอน” น.ส.จิราพร กล่าว