สภาเดือด ฝ่ายค้านโวย รมต. เรียงตัวชี้แจงแทนนายกฯ ยืดยาว จน ‘บิ๊กตู่’ ต้องออกโรง

สภาเดือด ฝ่ายค้านโวย รมต. เรียงตัวชี้แจงแทนนายกฯ ยืดยาว จน ‘บิ๊กตู่’ ต้องออกโรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายกฯ ให้รัฐมนตรีชี้แจงยาวเยียดกว่า 1 ชั่วโมงนั้น ทำให้ฝ่ายค้านรุมประท้วงประธานที่ปล่อยให้ ครม.ชี้แจงเป็นจำนวนมาก อาทิ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ประท้วงว่า เวลานี้ฝ่ายค้านเหลือผู้อภิปรายอีก 40 คน ต้องใช้เวลาอีก 40 ชั่วโมง ในช่วง 2 วันที่เหลือ ถ้าเป็นแบบนี้ หากฝ่ายค้านยังอภิปรายไม่จบ หวังว่ารัฐบาลคงไม่ชิงปิดอภิปรายทั้งที่ฝ่ายค้านยังอภิปรายค้างอยู่ ดังนั้น จึงขอให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อขยายเวลาอภิปรายไปอีก 3 วัน

ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า รัฐมนตรีสามารถอ้างสิทธิการอภิปรายได้ แต่ถ้าอ้างมากไปการอภิปรายก็ไปไม่ได้ ดังนั้น ต้องดูกาลเทศะด้วยว่าควรให้ใครพูดมากกว่า และควรพูดเวลาใด ถ้าฝ่ายค้านพูด 1 คน แต่รัฐมนตรีขึ้นมาชี้แจง 5 คน คงไม่ใช่ อีกทั้งรัฐมนตรีที่ลุกขึ้นมาชี้แจงไม่ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาอย่างเดียว แต่พูดแสดงความเห็นเรื่องอื่นด้วย

“ถ้ายังทำกันอยู่แบบนี้ ฝ่ายค้านขอยกเลิกข้อตกลงเรื่องเวลาที่ทำกับฝ่ายรัฐบาลทั้งหมด สิทธิต้องมาคู่กับความเหมาะสม การอภิปรายครั้งนี้ ถ้าผมไม่เป็นผู้กล่าวปิด การอภิปรายก็ปิดไม่ได้ ผมไม่ขอเป็นสุภาพบุรุษกับคนที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษ” นายสุทินกล่าว

ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงถึงกรณีฝ่ายค้านแสดงความไม่พอใจ ที่ให้รัฐมนตรีหลายคนช่วยกันชี้แจงการอภิปรายยาวเหยียดเกินความจำเป็นว่า ฝ่ายรัฐบาลใช้เวลาของรัฐบาล ส่วนฝ่ายค้านก็ใช้เวลาของฝ่ายค้าน สิ่งที่ต้องร่วมมือกันคือการปฏิรูปการเมือง การปฏิรูปสภาให้เป็นที่ยอมรับ ไม่ใช้เวทีสภาเป็นการฆ่าฟันทิ่มแทงกัน เราต้องการสร้างความรับรู้แก่ประชาชน จึงต้องให้หลายกระทรวงช่วยกันชี้แจง เหตุผลที่ต้องพูดกันในหลายกระทรวง เพราะโครงการหนึ่งเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง จึงต้องการให้ประชาชนรับทราบข้อมูล เราต้องการความร่วมมือ ซึ่งสภาถือว่ามีส่วนสำคัญ และประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าใครจะผิดหรือถูก เราใช้เวลาของเราก็ตัดเวลาไป ถ้ามีเวลาเหลือก็พูด ถ้าไม่มีเวลาเหลือก็ไม่พูด

ขณะที่ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมชี้แจงว่า ประธานที่ประชุมต้องยึดข้อบังคับการประชุม เพราะข้อบังคับการประชุมบอกว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมีสิทธิชี้แจงทันทีเมื่อผู้อภิปรายแต่ละคนพูดจบ หรือจะรอรวบยอดไว้ชี้แจงทีเดียวเลย ดังนั้น ประธานจะตัดสินใจเป็นอื่นไม่ได้ กรณีนี้อยากให้วิปทั้งสองฝ่ายไปตกลงกันเรื่องเวลาที่เหลือกันก่อน

ซึ่งนายสุทินได้ตอบกลับว่า นายกรัฐมนตรีและวิปรัฐบาลเข้าใจผิด ที่ผ่านมาไม่เคยตกลงเรื่องเวลาว่าฝ่ายใดได้เวลาเท่าใด เราตกลงกันว่าให้ฝ่ายค้านพูดได้เต็มที่ ส่วนฝ่ายรัฐบาลให้ชี้แจงตามความเหมาะสม ก่อนที่นายศุภชัยจะขอให้วิปทั้งสองฝ่ายไปตกลงกันนอกห้องประชุมเรื่องเวลาให้ดีเพื่อไม่ให้เสียเวลา ก่อนจะตัดบทเข้าสู่การประชุมต่อไป