ธอส.เผยสินเชื่อบ้านพุ่งม.ค.ยอดสูงถึง 1.2 หมื่นล. ชี้ดอกเบี้ยต่ำเป็นโอกาสกู้-โปะต้น

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) กล่าวว่า  ยอดปล่อยสินเชื่อบ้าน ในเดือนมกราคมนี้ อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นระดับที่สูงมาก เพราะตามปกติสินเชื่อบ้านในเดือนมกราคมในปีที่ผ่านๆมา จะอยู่ประมาณ 7 -8 พันล้านบาท ขณะที่ตัวเลขสินเชื่อล่าสุด ในเดือนกุมภาพันธ์ จนถึง 14 กุมภาพันธ์นี้ อยู่ที่ 6.2 พันล้านบาท ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากการที่ลูกค้าสินเชื่อบ้านถูกปฏิเสธมาจากธนาคารพาณิชย์มากขึ้น ทำให้ลูกค้าดังกล่าวหันมากู้เงินกับธอส.

นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า ในปีนี้ทั้งปีธอส.ตั้งเป้าหมายสินเชื่อไว้ที่ 2.09 แสนล้านบาท ซึ่งจากแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในช่วงต้นปีของ ธอส.บวกกับมาตรการสนับสนุนของภาครัฐเพื่อให้คนมีบ้าน เช่น โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อคนรายได้น้อย และอัตราดอกเบี้ยภายในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ เชื่อว่า ธอส.จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายดังกล่าว

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ในช่วงที่เหลือของปี ธอส. มีการออกสินเชื่อเงินกู้ใหม่ เพื่อตอบสนองลูกค้าอยากจะกู้บ้าน แม้ว่าขณะนี้เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาคการส่งออก และปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลของให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงก็ตาม แต่ ธอส.ยังเชื่อว่าลูกค้าของธนาคาร ซึ่งส่วนใหญ่กู้ในระดับ 2 ล้านบาทบวกลบ และส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้เป็นเงินเดือนประจำ จะยังไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยตรง และโอกาสของดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ โอกาสดีทำให้คนอยากมีบ้านและยังมีกำลังในการผ่อนชำระ รีบกู้เงินมาซื้อบ้านช่วงนี้

“ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยภายในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ เอื้ออำนวยให้คนกู้ซื้อบ้านได้มากขึ้น ซึ่งเชื่อว่า หาก ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะประกาศปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมาอีก เต็มที่จะไม่เกินอีก 1 ครั้ง โดยอัตราดอกเบี้ยต่ำเช่นนี้ จะอยู่ในระบบเศรษฐกิจนานพอสมควร ซึ่งเป็นโอกาสดีของลูกค้าที่กู้เงินซื้อบ้าน รวมถึงลูกค้าที่กู้เงินอยู่แล้ว หากมีกำลังก็นำเงินมาโป๊ะเพื่อลดเงินต้น ทำให้การผ่อนชำระหมดแล้วขึ้น”นายฉัตรชัยกล่าว

นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ธอส.ปรับปรุงกระบวนการพิจารณาสินเชื่อ เพื่อให้ลูกค้ามีความสะดวกมากขึ้น เช่น หากลูกค้าต้องการยื่นขอกู้ เดิม ต้องมายื่นเอกสารขอกู้กับธนาคาร แล้วเมื่อธนาคารอนุมัติก็นัดมาเซ็นสัญญาเงินกู้ รูปแบบใหม่นั้น ลูกค้าจะมาเดินทางธนาคารแค่ในวันยื่นกู้วันเดียวเท่านั้น หลังจากนั้น ธอส.จะให้พนักงาน  หรืออาจจ้างบริษัทภายใน นำเอกสารไปให้ลูกค้าเซ็นถึงบ้าน นอกจากนี้ยังสั่งการให้พนักงานของ ธอส.เริ่มคิดถึงการปรับปรุงการให้บริการ โดยให้คิดเสมอว่า ถ้าตัวเองเป็นลูกค้า จะต้องการอะไรบ้าง เช่น ยื่นขอกู้มีเอกสารมากไปหรือไม่ ควรจะลดอะไรลงมาได้บ้าง เป็นต้น