ศรีสุวรรณจี้กกต. ฟันอาญาซ้ำ ธนาธร-กรรมการบริหารพรรค หลังวินิจฉัย ยุบอนาคตใหม่

วันที่ 22 ก.พ. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย ยุบอนาคตใหม่ และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดเป็นเวลา 10 ปี และห้ามไปยุ่งเกี่ยวในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่นั้น

แต่เนื่องจากตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นการกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่นั้น ระบุไว้ชัดเจนว่าพรรคอนาคตใหม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงการรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นตาม ม.66 โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายตาม ม.72 แห่ง พรป.พรรคการเมือง 2560 โดยมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคอนาคตใหม่ทำการฝ่าฝืน ม.72 อันเป็นเหตุให้สั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ตาม ม.92 วรรคสอง ประกอบ ม.92 วรรคหนึ่ง (3)

ดังนั้น จึงเป็นบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะต้องดำเนินการต่อเนื่องให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ม. 124 ที่กำหนดให้เอาผิด ผู้บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาทต่อปี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้น 5 ปี และมาตรา 125 ที่กำหนดเอาผิดพรรคการเมืองที่รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดมีมูลค่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น 5 ปี และให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดส่วนที่เกินมูลค่าที่กฎหมายกำหนดไว้ 10 ล้านบาทตกเป็นของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองด้วย

นอกจากนั้น กรณีที่พรรคอนาคตใหม่มีการนำเงินรายได้ของพรรคที่ได้จากการระดมทุน การรับบริจาค ขายของที่ระลึก ซึ่งกฎหมายกำหนดห้ามนำไปใช้เพื่อการอื่นใดนอกจากการดำเนินงานของพรรคการเมืองตาม ม.87 ไปใช้หนี้เงินกู้ให้กับธนาธร โดย ม.132 กำหนดโทษไว้ว่าหากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และเหรัญญิกพรรคผู้ใดนำเงินหรือยินยอมให้บุคคลนำเงิน ทรัพย์สินของพรรคไปใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือบุคคลอื่น

หรือนำไปใช้เพื่อการอื่นอันเป็นการฝ่าฝืน ม. 87 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี ปรับตั้งแต่ 1 แสน – 2 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับโดยที่การดำเนินคดีอาญานั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้ในคำวินิจฉัยด้วยว่าการดำเนินคดีอาญากับนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่นั้น เสร็จสิ้นจากคณะกรรมการไต่สวนฯของ กกต.แล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหา

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจำต้องเดินทางไปจี้ให้ กกต. เร่งดำเนินคดีอาญาต่อนายธนาธรและกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยเร็ว เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานต่อนักการเมืองต่อไป โดยจะเดินทางไปยื่นเรื่องในวันจันทร์ที่ 24 ก.พ.63 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการ อาคาร B หลักสี่ กทม.